สถานการณ์โควิด-19 มีสัญญาณดีขึ้น รัฐพร้อมจัดหาวัคซีน 140 ล้านโดสในปีนี้

29 ส.ค. 2564 | 15:14 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2564 | 22:46 น.

โฆษกรัฐบาลชี้สถานการณ์โควิด-19 มีสัญญาณดีขึ้น พร้อมแผนจัดหาวัคซีน 140 ล้านโดสในปีนี้ รวมทั้งการนำมาตรการควบคุมโรคแนวใหม่มาใช้

29 ส.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยมีสัญญาณดีขึ้น ยอดผู้ป่วยที่รักษาหาย สามารถกลับบ้านได้ ตัวเลขอยู่ที่กว่า 20,000 รายติดต่อกันเป็นเวลา 20 กว่าวันแล้ว และจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านนั้นมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกัน 10 กว่าวันแล้วด้วย ถือเป็นข่าวดี ขณะเดียวกันจำนวนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็มีแนวโน้มค่อยๆ ลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าตัวเลขจะยังสูงอยู่ เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่แนวโน้มในระยะยาวน่าจะค่อย ๆ ลดลง

 

ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้เห็นชอบกับแผนการที่เรียกว่า การควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด -19 หรือ "Smart Control and Living with COVID-19" ด้วยการ

  • ยกระดับป้องกันตัวเองอย่างสูงสุด
  • การฉีดวัคซีนให้เป็นภูมิคุ้มกันหมู่
  • การเข้าถึงชุดตรวจ ATK 
  • การจัดสภาพแวดล้อมของกิจการให้ปราศจากโควิด (COVID-Free Setting) เป็นต้น

นายธนกร กล่าวอีกว่าตามแผนการจัดหาวัคซีนนั้น ภายในสิ้นปี 2564 นี้ จะมีวัคซีนจำนวน 140 ล้านโดส  นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เจรจาสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มอีก แบ่งเป็น

  • วัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 ล้านโดสต่อเดือน (ก.ย. - ธ.ค. 64 เป็นเวลา 4 เดือน)
  • วัคซีน Pfizer/BioNTech จำนวน 2.5-3 ล้านโดสต่อเดือน (ก.ย. - ธ.ค. 64 เป็นเวลา 4 เดือน)

 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เร่งจัดหาวัคซีนโควิดสำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี เพื่อสร้างภูมิให้พร้อมก่อนการเปิดเรียนด้วย ซึ่งตอนนี้ ศบค. ได้นำมาตรการ Sandbox Safety Zone in School  เป็นการทดลองเปิดเฉพาะโรงเรียนประจำบางแห่งก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนให้กับครูแล้วกว่า 573,656 คน และยังคงมีนักเรียนในระบบอีกประมาณ 4 ล้านคนจากการประเมินของกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ ไทยจะได้รับวัคซีนรวมทุกประเภท 140 ล้านโดส โดยจะเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกคนตามเป้า 50 ล้านคน ครอบคลุม 70% ของประชากร ซึ่งรวมทั้งบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยให้เร็วที่สุด สอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ไทยมีอยู่

สถานการณ์โควิด-19 มีสัญญาณดีขึ้น รัฐพร้อมจัดหาวัคซีน 140 ล้านโดสในปีนี้

"ต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ล้างมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแล้ว แต่ต้องตระหนักว่าเชื้อโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ ระบาดกว้างขวาง แพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพียงแต่ประเทศไทย แต่เป็นวิกฤตทั่วโลก บางคนติดแล้วไม่แสดงอาการ ทำให้ไปติดครอบครัวได้ง่าย จึงขอให้คิดเสมอว่า เราอาจจะติดเชื้อแบบไม่รู้ตัว และอาจจะเป็นผู้แพร่เชื้อได้ ดังนั้น ขอให้ทุกคนยกระดับ การป้องตนเองแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ต้องระมัดระวังสูงสุด ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ แยกของใช้ส่วนตัว ทานอาหารปรุงสุก หากพบว่าตนเองมีความเสี่ยงต้องรีบตรวจด้วย ATK  ขอให้ทุกคนอดทน เพื่อช่วยกันลดโอกาสการติดเชื้อเพิ่ม นำไปสู่การฟื้นฟูประเทศต่อไป" นายธนกร กล่าว