ฉีดวัคซีนควบรวมหลายยี่ห้อกำไร 2 ต่อหมอธีระวัฒน์ชี้ภูมิขึ้นไว-กันเดลตาได้

22 ส.ค. 2564 | 11:31 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2564 | 18:32 น.

หมอธีระวัฒน์เผยข้อมูลฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อกำไร 2 ต่อชี้ภูมิขึ้นไวและป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลตาได้ ระบุซิโนแวคหรือแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็มเอาเดลตาไม่อยู่

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า
รายงานหลายประเทศที่ใช้วัคซีนเชื้อตายเป็นหลักจะพบว่าวัคซีนซิโนแวคนั้นภูมิขึ้นช้าและภูมิคุ้มกันดังกล่าวตกเร็ว และเป็นข้ออธิบายว่าพบการติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเวลาผ่านไปประสิทธิภาพในการป้องกันอาการหนักและการตายจะเริ่มถดถอยลง ดังเช่นในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย และทำให้ต้องมีวัคซีนหลากหลายเข้ามาด่วนในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ยังคงอยู่และโดยเฉพาะต่อต้านกับเดลตาได้ โดยที่ซิโนแวคเดี่ยวๆ จะมีประสิทธิภาพจำกัด และแม้จะเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเดี่ยวๆก็ตาม
รายงานล่าสุดจากประเทศเวียดนามในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่บุคลากรทางสาธารณสุขได้วัคซีนแอสตร้าครบสองเข็มแล้ว แต่ติดเดลตาและจากคนเดียวแพร่ไป 50 ถึง 60 คน ทำให้ต้องมีการควบรวมหลายยี่ห้อเข้าด้วยกันทั้งนี้เพื่อให้ได้กำไรสองต่อ
กำไรต่อที่หนึ่งก็คือ ทำให้ภูมิคุ้มกันที่ตกไปแล้วสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทันการณ์

กำไรต่อที่สองก็คือทำให้ภูมิคุ้มกันที่สูงขึ้นนั้นสามารถต่อต้านกับเดลตาหรือสายพันธุ์อื่นได้
ในกรณีของวัคซีนนั้นข้อมูลตามที่ได้มีการแถลงออกมาดู อาจจะมีข้อสังเกตุหลายประเด็น
โดยเฉพาะในเรื่องระดับของภูมิคุ้มกันที่ซิโนแวคสองเข็มได้เท่ากับแอสตร้าสองเข็ม 

ระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลการรายงานจากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-20 ส.ค. 64 พบว่า มีการฉีดสะสมแล้วจำนวน 26,428,101 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 19,973,692 ราย ฉีดครบ 2 เข็ม จำนวน 5,920,614 ราย และฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 533,795 ราย