จาก Temple Isolation สู่ "พระไม่ทิ้งโยม" วิถีเกื้อกูลผู้ป่วยโควิดในสังคมไทย

04 ส.ค. 2564 | 15:10 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2564 | 22:25 น.

“วัดสุทธิวราราม” โดยความสนับสนุนของสสส. ตั้งวัดเป็นศูนย์พักคอย Temple Isolation ขนาด 120 เตียง รับผู้ป่วยโควิดสีเขียว พร้อมสร้างแกนนำ "พระไม่ทิ้งโยม" ให้วัดเป็นที่พึ่งสังคม ก่อนต่อยอดแนวคิดฝ่าวิกฤตโควิด-19 ด้วย “1 วัด 1 ตำบล” รองรับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ลดภาระโรงพยาบาล

4 ส.ค.2564 พระสุธีรัตนบัณฑิต รศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และผู้จัดการโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรสุขภาวะวิถีพุทธเชิงสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีสถิติผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ กทม. ทำให้ ผู้ป่วยโควิด-19 ล้นโรงพยาบาล ผู้ป่วยเข้าไม่ถึงการรักษา

พระสุธีรัตนบัณฑิต

ด้วยเหตุนี้ ทางวัดสุทธิวราราม จึงได้ปรับโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรสุขภาวะวิถีพุทธเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) และภาคีเครือข่ายเพื่อช่วยกันแก้ไขวิกฤตโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ดำเนินการปรับศูนย์การเรียนรู้พระพุทธศาสนาและการพัฒนาสังคม ซึ่งเป็นอาคารขนาด 3 ชั้นของวัดสุทธิวราราม จัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 สำหรับดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ

 

ศูนย์พักคอย ดังกล่าวเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นการใช้มาตรการดูแลผู้ป่วยที่วัด (Temple Isolation) เพื่อรอนำส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยมีพระนักพัฒนาการสาธารณสงเคราะห์ กลุ่ม “พระไม่ทิ้งโยม” จำนวนกว่า 20 รูป พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลอาสาสมัคร คอยดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวที่ตกค้างในชุมชน ให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่ศูนย์พักคอย โดยแยกผู้ป่วยออกจากคนในครอบครัว มุ่งลดการแพร่ระบาดของโควิดในชุมชมวงกว้าง

Temple Isolation สำหรับผู้ป่วยโควิด สีเขียว

พระสุธีรัตนบัณฑิต กล่าวว่า Temple Isolation ของวัดสุทธิวราราม มีรูปแบบการจัดการและวางระบบที่มีความพร้อม 5 ด้าน คือ

  1. ด้านสถานที่ วัดรองรับผู้ป่วย 120 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วย 60 คน และยังมีผู้ป่วยในชุมชนเจริญกรุง 57 กว่า 100 คน โดยทางวัดมีกลุ่ม “พระไม่ทิ้งโยม” ให้ความช่วยเหลือดูแลครอบคลุมทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ในวัดและชุมชนรอบข้าง
  2. ด้านการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ร่วมกับโรงพยาบาลสงฆ์ และโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ จัดทีมแพทย์ พยาบาล เฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วยในศูนย์พักคอยตลอด 24 ชั่วโมง แบ่งเป็นกลางวัน 3 คน และกลางคืน 3 คน
  3. ด้านอาหาร วัดรับบริจาควัตถุดิบเพื่อนำมาประกอบอาหารให้แก่ผู้ป่วย 3 มื้อ และรับบริจาคอาหารแห้ง อาหารกล่อง น้ำดื่ม เพื่อนำไปแบ่งปันให้ผู้ป่วย รวมถึงกลุ่มคนเปราะบางในชุมชน
  4. ด้านการค้นหาผู้ป่วย กลุ่ม “พระไม่ทิ้งโยม” ร่วมลงพื้นที่เชิงรุกในชุมชนรอบข้างค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อให้เข้าถึงการรักษาเร็วที่สุด
  5. ด้านการสื่อสาร มีการพัฒนาสื่อรูปแบบอินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่าย กระจายสู่คนในพื้นที่ โดยจะขยายการผลิตสื่อชุดความรู้ในรูปแบบคลิปวิดีโอ เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจให้สังคมไทยสู้กับสถานการณ์โควิด-19 ในวงกว้างต่อไป

"พระไม่ทิ้งโยม"

ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. เปิดเผยว่า สสส. มุ่งพัฒนาสุขภาวะองค์กรสงฆ์และชุมชน โดยผลักดันให้เกิดศูนย์การเรียนรู้พระพุทธศาสนาและการพัฒนาสังคมภายในวัดสุทธิวรารามขึ้นมา  โดยในช่วงวิกฤตโควิด-19 ได้ผลักดันให้จัดตั้ง “ศูนย์พักคอยเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19” ที่วัด เพื่อรองรับผู้ป่วยในชุมชน

 

ระบบ Temple Isolation ของวัดสุทธิวราราม ถือเป็นต้นแบบดูแลผู้ป่วยในวัดหรือสถานศึกษาของสงฆ์ ที่วัดในพื้นที่อื่นๆ สามารถประยุกต์ใช้ได้ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ไม่มีอาการกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนาของตัวเองจำนวนมาก โดย สสส. จะประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อขยายแนวทางการจัดทำระบบ Temple Isolation ให้ได้มากที่สุด

 

ขณะนี้ สสส. สานพลังภาคีธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติเสนอมหาเถรสมาคมผลักดันแนวคิดนี้ให้เกิดขึ้นอย่างน้อย 1 วัด 1 ตำบล ทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดภาระปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ตัดวงจรการระบาด และลดจำนวนผู้เสียชีวิตของไทย

 

ทั้งนี้ องค์กรที่มีความพร้อมหรือสนใจ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/dashbord_center/ เพื่อแจ้งความประสงค์จัดตั้ง Community Isolation โดยจะมีทีมงานประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมหาแนวทางการจัดการวางระบบที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานให้ต่อไป

 

ขอบคุณภาพจาก วัดสุทธิวราราม