“หญิงหน่อย”เชื่อ 13 ต.ค.เปิดประเทศไม่ได้ ชงพิมพ์เขียว 5 ด้านสู้โควิด-19 

25 ก.ค. 2564 | 12:32 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2564 | 19:39 น.

“หญิงหน่อย”เชื่อ 13 ต.ค.นี้เปิดประเทศไม่ได้ เสนอ 5 พิมพ์เขียวรับมือโควิด-19 ต่อยอดโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค - ภาครัฐปรับระบบบริหารจัดการแก้ปัญหาเตียงไม่พอ-ตรวจเชื้อเชิงรุกประชาชนทุกคน-มุ่งฉีดวัคซีนกลุ่มเอ็มอาร์เอ็นเอ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เปิด  “แผนสยบโควิด เปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศภายในสิ้นปี 64” ว่า พรรคไทยสร้างไทย  ออกพิมพ์เขียวแนะนำให้ภาครัฐออกดำเนินการ ทั้งการป้องกันการแพร่ระบาด และการแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 ที่เดินมาถึงจุดวิกฤติที่หนักที่สุดสร้างผลกระทบอย่างกว้างขวางในประเทศ

 

ข้อเสนอ 5 ขั้นตอน แบ่งเป็นด้านสาธารณสุข 3 ขั้นตอน และด้านเศรษฐกิจ 2 ขั้นตอน เพื่อให้รัฐบาลนำไปพิจารณาใช้เพื่อแก้ปัญหานี้

 

ด้านแรก คือ “ระบบสาธารณสุข” คุณหญิงสุดารัตน์ แนะนำให้รัฐบาลต่อยอดโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อให้ประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์ในการรักษา สามารถรักษาได้ในราคาถูก 

 

การตรวจเชื้อเชิงรุก ให้กับประชาชนทุกคน ในพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้ม เพื่อนำเข้าสู่ระบบให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด ด้วยการให้รัฐบาลเลิกพูดผูกขาดกฎระเบียบในการตรวจเชื้อ โดยแนะใช้อาสาสมัครในชุมชนช่วยบุคลากรทางการแพทย์เพื่อตัดตอนการแพร่ระบาด ทำระบบแอปพลิเคชั่นรองรับ  การรักษาของประชาชนเมื่อพบผลตรวจเป็นบวก และ ปลดล็อกให้ประชาชนเข้าถึงชุดตรวจแรบิดเทสในราคาถูก
 

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังเสนอให้ภาครัฐปรับระบบการบริหารจัดการระบบสาธารณสุขใหม่ทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาเตียงไม่พอ โดยให้ยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคโดยเฉพาะระเบียบการจ่ายเงินของรัฐ , โรงพยาบาลต้องรับผู้ติดเชื้อให้เร็วที่สุด  

 

โดยผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการให้เข้าโฮมไอโซเรชั่น  และ  ทำคอมมูนิตี้ไอโซเรชั่น พร้อมกระจายยาฟาวิพิราเวียทันที เพื่อลดอาการป่วยหนักของประชาชนให้สามารถรักษาได้ทันและกลับบ้านได้ หากเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและกลุ่มสีแดง ก็ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลได้ทันถ่วงที

 

ส่วนการป้องกัน คือ การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่จะทำให้คนไทยสามารถมีชีวิตอยู่กับโรคโควิดได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยจัดการระบบวัคซีน คือเปลี่ยนวัคซีนหลักของประเทศให้เป็นวัคซีนกลุ่มเอ็มอาร์เอ็นเอ ร่วมกันกับแอสตร้างเซนเนก้า ที่สั่งไว้เดิม พร้อมระดมฉีดขั้นต่ำที่ 500,000 โดสต่อวันให้ได้เดือนละ 15,000,000 โดส  

 

สำหรับผู้ที่รับวัคซีนซิโนแว็กซ์ไปก่อนหน้านี้ให้มาฉีดบูสเตอร์เป็นวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ และยกเลิกใช้ซิโนแว็กซ์ในประเทศทันที เมื่อวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอมาถึง

 

“เรื่องของการเปิดประเทศในวันที่ 13 ตุลาคม ที่รัฐบาลประกาศเอาไว้  คุณหญิงสุดารัตน์  เชื่อว่า คนไทยไม่สามารถรับวัคซีนได้ทัน จึงไม่สามารถเปิดประเทศได้ แต่หากอยากเปิดประเทศได้ไว ควรฉีดวัควัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบางให้ครบทั้ง 2 เข็ม และทุกคนภายในเดือนพฤศจิกายน ก่อนฉีดให้กับบุคลทั่วไปให้ครบในกลางเดือนมกราคมปีหน้า  
ทั้งหมดนี้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องใช้อำนาจในการสั่งการ ลงนาม เพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากไม่เร่งดำเนินการ การ “ล็อกดาวน์” อย่างเช่นทุกวันนี้ก็จะสูญเปล่า” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ