แอสตร้าเซนเนก้า ออกจดหมายเปิดผนึก แจงปัญหาการส่งมอบวัคซีนในไทย

24 ก.ค. 2564 | 10:20 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2564 | 18:24 น.
18.6 k

แอสตร้าเซนเนก้า ออกจดหมายเปิดผนึกถึงคนไทย แจงปัญหาส่งมอบวัคซีน เผย ชีววัตถุ ที่เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิต มีความซับซ้อน มีความไม่แน่นอน คาด สามารถจัดสรรวัคซีนให้ไทยได้เฉลี่ย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ขณะที่พร้อมส่งมอบวัคซีน 2.3 ล้านโดสให้ไทยสัปดาห์หน้า

25 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจมส์ ทีก  ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนพี่น้องชาวไทย มีใจความว่าถึงคนไทย ชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาการส่งมอบวัคซีนให้ไทย พร้อมยืนยันว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) จำนวน 2.3 ล้านโดสพร้อมส่งมอบถึงมือคนไทยในสัปดาห์หน้านี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนการจัดหาวัคซีน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทย 

เรียน เพื่อนพี่น้องชาวไทย

ขณะที่ทั่วประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผมในฐานะตัวแทนของแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศไทย ขอใช้โอกาสนี้เรียนให้ทุกท่านทราบถึงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เพื่อช่วยเหลือทุกท่านและยับยั้งการแพร่ระบาดนี้

พวกเราทุกคนที่แอสตร้าเซนเนก้า มีความกังวลและเป็นห่วงกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง 
ที่ผ่านมา เราได้มีการหารือกับกรมควบคุมโรคมาโดยตลอดเกี่ยวกับผลกระทบจากการกลายพันธุ์ของไวรัส และแนวทางที่แอสตร้าเซนเนก้าจะสามารถช่วยสนับสนุนโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้

ผมขอยืนยันกับทุกคนว่า สิ่งที่แอสตร้าเซนเนก้าให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในขณะนี้ คือ การเร่งผลิตและส่งมอบวัคซีนที่มีคุณภาพเพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรักให้ได้โดยเร็วที่สุด เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถ

วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เป็น “ชีววัตถุ” ที่เริ่มต้นด้วยการเพาะเลี้ยงเซลล์ที่เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิต จึงมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน จำนวนเซลล์ ที่สามารถนำไปใช้ เพื่อการผลิตวัคซีนในแต่ละรอบการผลิตจึงมีความไม่แน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตระยะแรกจากศูนย์การผลิตวัคซีนแห่งใหม่ ถึงแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่เราคาดการณ์ว่า จะสามารถจัดสรรวัคซีนให้กับประเทศไทยได้โดยเฉลี่ย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน

จนถึงขณะนี้ แอสตร้าเซนเนก้าได้ส่งมอบวัคซีนให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 9 ล้านโดส และมีกำหนดส่งมอบอีก 2.3 ล้านโดสในสัปดาห์หน้า รวมเป็นยอดส่งมอบ 11.3 ล้านโดส ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทย

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า เราพยายามอย่างสุดความสามารถและเสาะหาทุกวิถีทางที่จะเร่งการผลิตและส่งมอบวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรผู้ผลิตอย่างสยามไบโอไซเอนซ์ เราได้พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และเรามั่นใจว่า จะสามารถส่งมอบวัคซีนได้มากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้เรายังได้พยายามจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากศูนย์การผลิตของแอสตร้าเซนเนก้าทั่วโลกกว่า 20 แห่งเพื่อส่งมอบวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะขาดแคลนวัคซีนป้องกันโควิด-19 การขาดแคลนวัตถุดิบและส่วนประกอบที่จำเป็นในการผลิตวัคซีน ส่งผลให้เราไม่สามารถคาดการณ์จำนวนการผลิตที่แน่นอนได้ แต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมมาให้กับคนไทยได้ในเดือนต่อๆ ไป

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  นับเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดของยุค พวกเราทุกคนที่แอสตร้าเซนเนก้าตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการช่วยคลี่คลายวิกฤตนี้ พนักงานของเรา รวมไปถึงพนักงานของพันธมิตรด้านการผลิตหลายพันชีวิตต่างอุทิศกำลังและเวลาช่วงปีที่ผ่านมาอย่างเต็มความสามารถในการผลิตและส่งมอบวัคซีน

แอสตร้าเซนเนก้า มีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดนี้ โดยไม่หวังผลกำไร เพราะเราเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าการจัดหาวัคซีนในช่วงที่มีความต้องการเร่งด่วนนี้จะหนักเกินกว่าที่จะรับมือโดยลำพัง แต่เราจะไม่หยุดพักจนกว่าทุกคนจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เราต้องร่วมสู้วิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน
 
นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คนไทยทั้งประเทศได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่แข็งแกร่ง และความมีน้ำใจ พร้อมที่จะยื่นมือช่วยเหลือกันในยามยาก จากผลสำรวจที่ระบุว่า กว่า 1 ใน 3 ของคนไทย

รวมถึงพนักงานของเราในประเทศไทยได้ร่วมบริจาคเงิน อาหาร หรือสิ่งของเพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในช่วงการระบาด ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยทั้งในชุมชนและในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ การจะผ่านพ้นมหาวิกฤตโควิด-19 ได้นั้น เราทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจฝ่าวิกฤตครั้งไปด้วยกันไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทยแต่รวมถึงทุกประเทศทั่วโลกด้วย

ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ประเทศบ้านพี่เมืองน้องของเราทั่วอาเซียนก็มีการประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง พร้อมกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

ข้อมูลจากการใช้วัคซีนล่าสุดจากประเทศแคนาดาแสดงให้เห็นว่า วัคซีนป้องกันโควิด -19 ของแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อรุนแรงในระดับที่ต้องเข้านอนรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้มากถึง 87%  ดังนั้น วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งกับประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

พวกเราทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในทุกที่ เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปอย่างไร้พรมแดน

ดังนั้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านยังคงทวีความรุนแรงก็ถือเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยด้วยเช่นกัน หนทางเดียวที่จะยุติการแพร่ระบาดนี้ได้คือ ความร่วมมือร่วมใจกันของพวกเราทุกคน

แอสตร้าเซนเนก้า ออกจดหมายเปิดผนึก แจงปัญหาการส่งมอบวัคซีนในไทย

แอสตร้าเซนเนก้า ออกจดหมายเปิดผนึก แจงปัญหาการส่งมอบวัคซีนในไทย

แอสตร้าเซนเนก้า ออกจดหมายเปิดผนึก แจงปัญหาการส่งมอบวัคซีนในไทย