"หมอยง"ชี้ฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มตามด้วย Vector ภูมิต้านทานขึ้น 1หมื่นหน่วย สูงกว่า mRNA

24 ก.ค. 2564 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2564 | 22:20 น.
3.2 k

หมอยงเผยข้อมูลการฉีดวัคซีนสลับชนิดชี้เชื้อตาย 2 เข็มตามด้วย virus Vector แบบที่บุคคลากรทางแพทย์ทำภูมิต้านทานขึ้นเฉลี่ย 10,000 หน่วย สูงกว่า mRNA พร้อมยืนยันงานวิจัยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง และนโยบายใดๆทั้งสิ้น

ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า 

โควิด-19 วัคซีน การให้วัคซีนลูกผสม จีนผสมฝรั่ง การศึกษาวิจัยที่ศูนย์ทำอยู่ ปรับรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับทรัพยากรที่เรามีอยู่ และวัคซีนที่เรามีจะเห็นว่าการติดเชื้อโดยธรรมชาติจะมีภูมิต้านทานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60 หน่วย

การให้วัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็มภูมิต้านทานจะขึ้นมาอยู่ระดับเฉลี่ย 100 หน่วย ถ้าให้วัคซีนไวรัส Vector AZ  2 เข็มห่างกัน 10 สัปดาห์ภูมิต้านทานจะขึ้นมาอยู่ที่ 900 หน่วย แต่ถ้าให้วัคซีนสลับกัน โดยให้วัคซีนเชื้อตาย แล้วตามด้วยไวรัสเวกเตอร์ที่ 3-4 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะสูงที่ 700 หน่วย

ในขณะที่ให้วัคซีน mRNA  2 ครั้งห่างกัน 3 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะขึ้นมาสูงถึงพัน 1700  หน่วย

แต่การให้วัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม ตามด้วยวัคซีน virus Vector  อย่างที่ขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ด้านหน้าทำอยู่ พบว่าภูมิต้านทานเฉลี่ยสูงขึ้นมา เฉลี่ยเป็น 10,000 หน่วย

การวัดนี้เป็นระดับภูมิต้านทาน ขณะนี้กำลังทำการวิจัยแนวลึก ถึงความสามารถในการขัดขวางไวรัส ในแต่ละสายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์เดลตาด้วย จากข้อมูลที่ผ่านมา สายพันธุ์เดลต้าหลบหลีกระบบภูมิต้านทานจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงเพิ่มขึ้น จนกว่าจะมีวัคซีนที่ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด หรือวัคซีนใน Generation ที่ 2 
ทางศูนย์ มุ่งมั่นในการทำการศึกษาวิจัย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับคนไทย เป็นงานวิชาการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง และนโยบายใดๆทั้งสิ้น

เปรียบเทียบภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 28 ก.พ.-22 ก.ค. 64 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขพบว่า มีการฉีดสะสมแล้วจำนวน 15,388,939 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 11,805,180 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 3,583,759 ราย