"ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์" เตือนห้ามนำวัคซีนตัวเลือก "ซิโนฟาร์ม" ไปขายต่อ

30 มิ.ย. 2564 | 08:50 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มิ.ย. 2564 | 08:50 น.
1.1 k

เลขาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ออกโรงเตือนห้ามนำวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มไปขายต่อ หรือเรียกเก็บเงิน ระบุอาจมีความผิดทั้งคดีอาญาและแพ่งตามข้อตกลง

รายงานข่าวระบุว่า ศาสตราจารย์ นพ.นิธิ มหานนท์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda โดยมีข้อความว่า 
    ถึงวันนี้ได้มีหลายบริษัทหลายองค์กรเข้าไปรับวัคซีนตัวเลือก Sinopharm กับสถานพยาบาลหลายๆแห่งแล้ว มีทั้งคน องค์กร/บริษัทที่ได้ไปรับอย่างราบรื่น หลายคนหลายองค์กร/บริษัท และสถานพยาบาลมีปัญหาติดขัด(ขัดใจ)กันมากบ้างน้อยบ้าง แต่ทุกๆคนก็ได้รับวัคซีนกันไปหลายหมื่นคน หลายพันองค์กร จากร้อยกว่าสถานพยาบาลแล้ว 
    ผมอยากขอร้อง ขอความช่วยเหลือทุกๆคน บริษัท/องค์กรและสถานพยาบาลที่ได้เจอปัญหาและแก้ไขเข้าใจจุดติดขัดต่างๆจนราบรื่นเรียบร้อย แล้วช่วยเป็นพี่เลี้ยงเข้ามาในสื่อต่างๆที่ผม หรือราชวิทยาลัย  หรือศูนย์วัคซีน Sinopharm ได้โพสต์ไว้เป็นสาธารณะหรือในกลุ่ม Line เพื่อช่วยตอบ แนะนำและแก้ปัญหาให้คนอื่นๆด้วยกันครับ ยามนี้คนไทยจะรอดได้เมื่อทุกคนที่สามารถออกมาช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยครับ 
    มีอีกสองเรื่องที่อยากจะสื่อถึงคราวเดียวกันด้วยเลยคือเรื่องแรกพบว่ามีคนนำวัคซีนตัวเลือก Sinopharm ไปหากิน (ต้องเรียนว่าหากินบนความทุกข์คนอื่นอย่างแท้)นำไปขายต่อ เรียกเก็บเงิน เปิดรับเงินจอง ซึ่งในระยะที่ 1 นี้ทางราชวิทยาลัยไม่ได้อนญาให้ใครทำเช่นนั้นเลย ถ้าบริษัทใด กลุ่มใดทำเช่นนั้นท่านอาจผิดทั้งคดีอาญาและแพ่งตามข้อตกลงที่ทำไว้กับราชวิทยาลัยได้
    ประเด็นที่สองคือสถานพยาบาลต่างๆผมขอความกรุณาให้พยายามช่วยเหลือพี่น้องคนไทยกันให้เต็มที่ด้วยครับ ผมเข้าใจดีว่าการให้บริการฉีดวัคซีนนี้มีงานเพิ่มค่อนข้างมากโดยเฉพาะสำหรับสถานพยาบาลเอกชน ขอให้ช่วยกันปรับเพื่อให้ให้บริการฉีดให้ประชาชนได้มากและเร็วที่สุดด้วยครับ ได้ข่าวว่าหลายๆแห่งเลือกรับแต่องค์กร/บริษัทใหญ่ๆเพื่อความง่ายในการบริหารจัดการ……แต่ยามนี้เราไม่ช่วยกันแล้วจะให้ใครมาช่วยล่ะครับ ขอร้อง

ห้ามนำวัคซีนซิโนฟาร์มไปขายต่อ
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รบรวมตัวเลขรายงานสรุปปจำนวนองค์กรที่ยื่นความประสงค์ขอรับจัดสรรวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ระยะที่ 1 ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2564  พบว่า มีจำนวนองค์กรที่ยื่นความประสงค์ จำนวน 3,073 องค์กร มียอดสะสม 10,011 องค์กร ขณะที่จำนวนบุคคลที่องค์กรยื่นขอรับการจัดสรร มีจำนวน 478,610 ราย มียอดสะสม 3,660,616 ราย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :