แนะกินยาพาราเฉพาะมีอาการหลังฉีดวัคซีนโควิด "หมออนุตตร" ยันไม่ควรกินก่อน

14 มิ.ย. 2564 | 15:25 น.
29.5 k

หมออนุตตรชี้ควรกินยาพาราเซตามอลเฉพาะตอนมีอาการหลังฉีดวัคซีนโควิด ยันไม่ควรกินก่อน ห่วงยาหมดฤทธิ์ขณะที่บางคนอาจไม่มีอาการ

รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ท.อนุตตร จิตตินันทน์ (หมออนุตตร) ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (Anutra Chittinandana) โดยมีข้อความว่า
    ประเด็นวัคซีนโควิด-19 รายวัน 
    มีคนส่งต่อกันในโลกโซเชียลอ้างว่ามีกุมารแพทย์ (หมอเด็ก) แนะนำว่า  ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว อย่าเพิ่งรีบกินยาพารา 
    การกินพาราเซตามอลทันทีหลังจากรับวัคซีน จะมีผลขัดขวางการที่วัคซีนจะเข้าไปกระตุ้นภูมิต้านทานในร่างกาย รอให้ไข้ขึ้นก่อน (นั่นแปลว่าการกระตุ้นภูมิสำเร็จแล้ว) ค่อยกิน ถ้าไข้ต่ำ แค่รู้สึกตัวรุมๆ ไม่ต้องกินพารา ถ้าไข้สูง ค่อยกินพารา
    ขอสรุปจากการสอบถามกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน อ.กุลกัญญา โดยตรง ดังนี้ครับ
    คนที่แนะนำอาจจะไปสับสนกับผลการศึกษาในเด็ก  เด็กทารกซึ่งฉีดวัคซีนตามปกติพบว่าถ้าให้กินพาราไปเลยก่อนที่จะมีไข้ขึ้นอาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำกว่ากลุ่มที่รอมีไข้ขึ้นแล้วค่อยกินยาพารา แต่นั่นเป็นเด็กเล็กอายุน้อยกว่าหนึ่งปี และไม่เกี่ยวข้องกับคำแนะนำผิด ๆ นี้ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ หากมีไข้แม้จะต่ำก็กินยาได้เลยเพราะผู้ใหญ่มักจะมีไข้ขึ้น น้อยกว่าเด็กอยู่แล้ว และการกินยาลดไข้จะได้บรรเทาอาการปวดหัวทรมานต่าง ๆ หลังการฉีดวัคซีน
    สำหรับประเด็นการกินยาลดไข้ดังกล่าวก่อนฉีดวัคซีน  ปกติจะแนะนำให้รอให้มีอาการเริ่มต้นเล็กน้อยก่อน เพราะมิฉะนั้นยามันจะหมดฤทธิ์เสียก่อนเพราะบางคนไม่มีอาการอะไรเลยจนหลายชั่วโมงต่อมาจะได้ไม่ต้องกินยาโดยไม่จำเป็น 

ยาพาราเซตามอล
    ทั้งนี้ ยาพาราเซตามอลนั้น  ถือว่าเป็นยาที่ได้รับคำแนะนำให้สามารถรับประทานได้หากมีอาการไข้หลังจากที่มีการฉีดวัคซีนโควิด โดยศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยให้คำแนะนำว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca ถ้ามีไข้หรือปวดศีรษะ ท้องเสียอาเจียน ปวดเมื่อยตามตัว คล้ายไข้หวัดใหญ่ ถือเป็นอาการที่พบได้ หลังการฉีดวัคซีน ดังนั้น หลังฉีดเมื่อกลับไปถึงบ้านถ้ามีอาการดังกล่าว รับประทานยาพาราเซตามอลได้เลย ไม่ต้องรอให้ไข้ขึ้นสูง หรือปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว และสามารถทานซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง อาการดังกล่าวจะอยู่ประมาณ 1-2 วัน ก็จะหายเป็นปกติ

     นอกจากว่ามีอาการมาก เช่นไข้สูงติดต่อกันหลายวัน หรือสูงมาก ปวดศีรษะอย่างรุนแรง และรับประทานยาแล้วไม่หาย ก็ควรจะปรึกษาแพทย์ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :