ตำรวจ เตือน มิจฉาชีพ หลอกขายทองออนไลน์ ระบาด !

16 พ.ค. 2564 | 13:58 น.

ตำรวจ เตือน! ประชาชนระวังมิจฉาชีพหลอกขายทอง เปิดประมูลทองราคาต่ำทางออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ในเรื่องเกี่ยวกับการหลอกขายทองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้ ส่งผลกระทบให้พี่น้องประชาชนหลายคนมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป หลายคนอาจจะต้องทำงานอยู่บ้าน หลายคนอาจจะหารายได้ได้ไม่เท่าเดิม และหลายคนอาจจะต้องถูกออกจากงาน ทำให้พี่น้องประชาชนต้องดิ้นรนหารายได้มาเพื่อจุนเจือตนเองและครอบครัว

แต่ก็ยังมีเหล่ามิจฉาชีพที่อาศัยช่องว่างจากความต้องการของพี่น้องประชาชนนี้ในการกระทำความผิด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็พบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะของการหลอกขายทองให้ผู้เสียหาย ซึ่งรูปแบบก็จะคล้ายๆกัน โดยจะมีการขายทองในราคาต่ำกว่าท้องตลาด หรือเปิดให้คนเข้ามาประมูลทองในราคาต่ำ โดยเหล่ามิจฉาชีพจะอ้างว่าสามารถนำทองไปขายในราคาท้องตลาดได้ มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนหรือมักจะอ้างข้อเสนอที่ปฏิเสธได้ยาก และเมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ก็มักจะไม่ได้รับทองหรือผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้และติดต่อไม่ได้ในที่สุด
 

อย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านเฟซบุ๊คให้มาลงทุนซื้อทองคำในราคาต่ำกว่าตลาด โดยอ้างว่าทองคำดังกล่าวไม่มีหน้าร้าน และไม่มีค่าดำเนินการ จึงขายได้ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด สามารถซื้อไปเก็งกำไรขายต่อได้ เมื่อผู้เสียหายร่วมลงทุนไปก็ปรากฎว่าไม่ได้กำไรตอบแทน จึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ ก่อนที่กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวก็ได้ถูกจับกุมโดยกองบังคับการปราบปรามซึ่งก่อนนี้มีผู้ร่วมขบวนการเดียวกันนี้ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว 2 ราย หรือจะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นใน จ.ลพบุรี ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊คประกาศให้คนมาร่วมประมูลทองคำในราคาต่ำกว่าท้องตลาดเกือบครึ่งหนึ่ง และเมื่อมีผู้ชนะการประมูลและได้โอนเงินไปแล้ว ปรากฎว่าไม่ได้มีการส่งทองมาให้ตามที่ตกลงกันก่อนนี้ ก่อนผู้ต้องหาจะถูกจับกุมโดยกองบังคับการปราบปรามในเวลาต่อมา

ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวเป็นความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนตาม พรบ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษก ตร. และ โฆษก บช.สอท. จึงฝากเรียนประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า ขอให้กรณีที่ได้กล่าวไปเป็นอุทาหรณ์ในการตัดสินใจจะลงทุนในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้ ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณให้มากกว่าเดิมและขอให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบราคาทองในท้องตลาดก่อนตัดสินใจโอนเงินให้ดี ประเมินความเป็นไปได้ว่าการซื้อขายดังกล่าวนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ มีความน่าเชื่อถือมากเพียงใด

หลีกเลี่ยงข้อเสนอที่ฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นไปได้หรือข้อเสนอที่ยากที่จะปฏิเสธ พึงระลึกไว้เสมอว่า “ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยง่าย โดยเฉพาะเรื่องเงิน” และ “การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ” นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง