นำ Generali ขึ้นท็อป 10 สร้างความเท่าเทียม…ให้เป็นจริง

05 ธ.ค. 2563 | 12:05 น.

ผู้บริหารถ้าไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัดสินใจ หรือตัดสินใจโดยที่ไม่ฟังคนอื่น องค์กรก็จะเข้าสู่โหมดการไม่พูด ซึ่งอาจบริหารง่าย แต่ก็จะไม่มีความสำเร็จ

ในแวดวงธุรกิจบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยเมืองไทย มีแบรนด์เจ้าตลาดอยู่ไม่มากก็จริง แต่ก็มีผู้ให้บริการที่หลากหลายพอสมควร โดยหนึ่งในนั้นคือ บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิตและประกันภัย(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ซึ่งกำลังเติบโตอย่างน่าสนใจ ภายใต้การบริหารของ "บัณฑิต  เจียมอนุกูลกิจ" ที่เพิ่งเข้ามานั่งในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในกลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ประเทศไทย เมื่อปี 2557 ขณะที่เจนเนอราลี่ เปิดให้บริการในไทยมาตั้งแต่ปี 2545

นำ Generali ขึ้นท็อป 10   สร้างความเท่าเทียม…ให้เป็นจริง

ซีอีโอ เจนเนอราลี่ บอกว่า ขณะนี้เจนเนอราลี่ ก้าวขึ้นสู้บริษัทประกันลำดับ 13 ของประเทศ และเขามีเป้าที่จะขับเคลื่อนองค์กรขึ้นสู่แบรนด์ระดับท็อป 10 ต่อไป แม้จะไม่ง่ายนัก แต่ก็เชื่อวาาน่าจะทำได้ 

 

ความมั่นใจของ "บัณฑิต" เกิดจากการวางเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ยึด Customer Centric หรือการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมา เจนเนอราลี่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไม่เฉพาะในด้านรายได้ แต่ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตที่ยั่งยืน ผลิตภัณฑ์ของเจนเนอราลี่ต้องตอบโจทย์ความต้องการ และมีความคุ้มค่า 

ขณะเดียวกัน ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งเจนเนอราลี่ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวก รองรับความต้องการของลูกค้าอาทิ ช่องทาง  LINE : Generali Thailand และแอปพลิเคชั่น Generali 365 และยังบริการ "เจนเนอราลี่แคร์ เซ็นเตอร์ 1394" เพื่อบริการลูกค้าเจนเนอราลี่ให้ดียิ่งขึ้น สะดวก รวดเร็ว จดจำง่าย ในเลขหมายเดียว สามารถให้ข้อมูลข้อมูลกรมธรรม์ ประวัติการชำระเบี้ย การเคลม และสิทธิประโยชน์ต่างๆ

นำ Generali ขึ้นท็อป 10   สร้างความเท่าเทียม…ให้เป็นจริง

สิ่งที่จะผลักดันให้ Generali Thailand ไปสู่เป้าหมายที่กำหนด "บัณฑิต" มุ่งมั่นที่จะผลักดัน เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพราะเจนเนอราลี่ เป็นบริษัทประกันสุขภาพระดับโลก ที่มีประสบการณ์มายาวนานเกือบ 200 ปี  

 

ปัจจุบันกระแสโลกให้ความสำคัญกับเรื่อง “การพัฒนาที่ยั่งยืน” ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 มิติ คือ “ESG” ซึ่งหมายถึง การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาลหรือบรรษัทภิบาล (Governance) โดยหากภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับ ESG ในทุกๆ มิติแล้ว ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ กิจการนั้นๆ จะสามารถแข่งขันในตลาดและมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมีกำไรและยั่งยืนซึ่งเจนเนอราลี่ได้นำเอาหลัก ESG มาปรับใช้ในกระบวนการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ

"สำหรับลูกค้า มันไม่ใช่แค่การขายกรมธรรม์ประกันภัย แต่มันเป็นการสร้างวิสัยทัศน์เพื่ออนาคตโดยการยืนอยู่ข้างๆ ลูกค้าในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา เสมือนเป็น Lifetime Partner ซึ่งมันมากกว่าแค่ความคุ้มครอง"

 

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กร ที่ "บัณฑิต" ให้ความสำคัญมาก คือ “ยุทธศาสตร์บริหารคนสไตล์เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์" ด้วยนโยบายการยอมรับความแตกต่างและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม (Diversity & Inclusion : D&I) 

 

จากองค์กรที่มีความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม เพศ อายุ รวมไปถึงประสบการณ์ที่แตกต่าง 

"บัณฑิต" มองว่า ความหลากหลายเหล่านั้น คือข้อดีขององค์กร ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานมากขึ้น มีความเข่าใจที่ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น โดยผู้บริหารและทีมงานต้องเปิดใจรับฟังและทำความเข้าใจ

 

ในมุมของการบริหาร ในบอร์ดการประชุมที่มีผู้บริหารหลากหลายเชื้อชาติถึง 7 เชื้อชาติ ได้แก่ ไทยฮ่องกง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ไอร์ซแลนด์ อังกฤษ และอิตาลีทำให้เขาได้รับข้อคิดเห็นดีๆ และแตกต่างกันไป แม้บางครั้งความคิดเห็นเหล่านั้น อาจไม่ได้ส่งผลหรือทำให้การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงไปแต่มันช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่า เป็นการตัดสินใจที่ได้มาจากมุมมองครอบคลุม ลดความเสี่ยงในสิ่งที่อาจมองข้ามหรือความไม่รู้ 

นำ Generali ขึ้นท็อป 10   สร้างความเท่าเทียม…ให้เป็นจริง

"บัณฑิต" มุ่งเน้นในเรื่องความสมดุลของเพศและเจนเนอเรชั่น รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมการมีสิทธิ์มีเสียงที่เท่าเทียมกัน เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถพูดหรือท้วงติงหากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมโดยซีอีโอพร้อมเปิดรับฟังเสมอ

 

ขณะเดียวกัน ก็เปิดให้พนักงานทุกคนได้มีส่วนร่วม โดยพนักงานแต่ละแผนกอาสาเข้ามาทำงาน ในทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน D&I ร่วมกับแผนก HR เช่น พนักงานกลุ่ม LGBT ก็สามารถเข้ามาร่วมทีมเพื่อรณรงค์เกี่ยวกับเรื่อง LGBT หรือพนักงานที่ที่เห็นคุณค่าเรื่องผู้หญิงก็อาสามาทำเรื่องผู้หญิงเป็นต้น 

 

"ผู้บริหารถ้าไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัดสินใจ หรือเป็นการตัดสินใจโดยที่ไม่ฟังคนอื่น องค์กรก็จะเข้าสู่โหมดการไม่พูด ซึ่งอาจบริหารง่าย แต่ก็จะไม่มีความสำเร็จ"

 

นั่นคือแนวทางการบริหารองค์กรสู่ความสำเร็จ ในรูปแบบของ "บัณฑิต" ที่สอดรับกับนโยบายของเจนเนอราลี่ทั่วโลก โดยตัวเขาเอง ก็ได้รับตำแหน่งเป็นแชมเปี้ยน  D&I ของกลุ่มบริษัทในภูมิภาคเอเชีย ด้วยแพชั่นส่วนตัวที่มี 

นำ Generali ขึ้นท็อป 10   สร้างความเท่าเทียม…ให้เป็นจริง

เป้าหมายขณะนี้ของซีอีโอ เจนเนอราลี่ นอกจากการผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่ท็อป 10 ในธุรกิจประกันแล้ว ในปีนี้เขายังมีเป้าการเติบโต 30% ซึ่งมั่นใจว่าสามารถทำได้แน่นอน จากแผนการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืนที่วางไว้

  นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 24 ฉบับที่ 3,632 วันที่ 3 - 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563