วันนี้ (29 พ.ค.63) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผย ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2563 ว่าวันนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบพื้นที่ทำการค้านำร่อง จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย 1.บริเวณทางเท้าถนนพระราม 2 ซอย 69 เขตบางขุนเทียน 2.บริเวณทางเท้าซอยอารีย์ 1 เขตพญาไท และ 3.บริเวณที่ว่างซอยอ่อนนุช 70 เขตประเวศทั้ง 3 จุด
เป็นไปตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ฉบับลงวันที่ 28 มกราคม 2563 แต่อาจมีบางอย่างที่ไม่ตรงตามที่ประกาศฯ กำหนด สำนักงานเขตจึงขอยกเว้นหลักเกณฑ์เล็กน้อยบางประการ ซึ่งคณะกรรมการได้อนุญาตให้ดำเนินการได้
โดยในบางจุดมีกลุ่มผู้ค้ารายเดิมได้ขอกลับมาทำการค้าขายในจุดเดิมทั้งหมด ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่าไม่สมควร เนื่องจากจุดประสงค์ของการอนุญาตให้ทำการค้าขายในพื้นที่ทำการค้าต้องการให้เกิดความเท่าเทียมทั้งผู้ค้ารายเดิมและผู้ค้ารายใหม่ หากผู้ค้ารายเดิมมีความประสงค์ที่จะทำการค้าในจุดเดิมก็สามารถยื่นความประสงค์เข้ามาได้ หากแผงค้ามีจำนวนเพียงพอก็ได้สิทธิสามารถทำการค้าได้
แต่หากแผงค้าไม่เพียงพอก็ต้องทำการจับสลาก โดยมอบหมายสำนักงานเขตเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ ได้มอบหมายสำนักเทศกิจดำเนินการเสนอพื้นที่ทำการค้านำร่องทั้ง 3 จุด ต่อกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อพิจารณา ซึ่งหากได้รับความเห็นขอบก็จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาประกาศพิเศษ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อใช้บังคับกับพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์ วิถีชุมชน ย่านพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว ณ บริเวณย่านถนนข้าวสาร และย่านเยาวราช ซึ่งทั้ง 2 จุด เป็นจุดที่ยกเว้นตามประกาศฯ ฉบับใหม่หลายประการ
เนื่องจากบริบทของการทำการค้าขายจะต่างจากจุดทั่วไป อาทิ ย่านเยาวราชจะเป็นในรูปแบบของ Street Food ขนาดแผงค้าหรือรูปแบบการทำการค้า ก็จะยกเว้นตามสภาพและลักษณะของการทำการค้า ส่วนถนนข้าวสาร ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ทำการค้าใหม่ จึงต้องมีการจัดวางแผงค้าใหม่ และแบ่งเวลาทำการค้าเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงแรกตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ช่วงที่ 2 ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. และจากการจัดวางแผงค้าโดยเว้นระยะห่างทางสังคม สามารถจัดแผงค้าได้ 276 แผงค้า และจากการแบ่งช่วงเวลาทำการค้าเป็น 2 ช่วง
ถนนข้าวสารก็จะมีแผงค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าหรือจำนวน 552 แผงค้า ทั้งนี้จากการสำรวจผู้ค้าในถนนข้าวสาร เดิมมีผู้ค้าที่ลงทะเบียนถูกต้องกับสำนักงานเขต จำนวน 234 ราย แต่มีผู้ค้ามารายงานตัวเพื่อยืนยันสิทธิเพียง 181 ราย ทำให้มีพื้นที่เหลือจำนวนมาก ซึ่งสำนักงานเขตก็จะเปิดให้ผู้ที่สนใจมายื่นความประสงค์เพื่อทำการค้าภายในถนนข้าวสาร โดยต้องเป็นไปตามประกาศและหลักเกณฑ์ที่กรุงเทพมหานครกำหนดทั้งในส่วนของคุณสมบัติของผู้ค้า และประเภทของสินค้าเพื่อให้เข้ากับอัตลักษณ์ของถนน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ส่วนจุดผ่อนผันเดิม จำนวน 175 จุด ในพื้นที่ 19 สำนักงานเขต ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดระเบียบ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจเร่งสำรวจพื้นที่ หากจุดผ่อนผันใดที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามประกาศฯ ฉบับใหม่ หรือไม่มีผู้ค้าแล้วให้ดำเนินการยกเลิก
ส่วนจุดผ่อนผันใดที่เข้าเกณฑ์ ให้ดำเนินการขอประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพมหานครจะยกเว้นให้กับผู้ค้ารายเดิมที่อยู่ในจุดผ่อนผันได้ทำการค้าต่อไปอีกเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นให้ยึดถือและดำเนินการตามประกาศฯ ฉบับใหม่ต่อไป