นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 ว่า มีกำไรสุทธิมูลค่า 4,062 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 368 ล้านบาท หรือ 10% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยหลักจากกำไรขั้นต้น 20,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,122 ล้านบาท หรือ 6% ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่เพิ่มขึ้น 3,057 ล้านบาท เนื่องมาจากปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
รวมถึงบริษัทฯ ได้มีการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิง ทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าค่า Ft ซึ่งเป็นองค์ประกอบบางส่วน เฉพาะผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าที่ส่งผลต่อราคาขายไฟฟ้าอุตสาหกรรมจะลดลงก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมีโครงสร้างรายได้หลักในส่วนของไฟฟ้า ไอน้ำที่ส่งผ่านต้นทุนได้ โรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ลดลง 2,021 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน มีค่าเชื้อเพลิงส่วนต่าง (Energymargin) ลดลง ซึ่งเป็นผลทางบัญชี ที่ราคาต้นทุนถ่านหินเฉลี่ยจากถ่านหินคงคลังสำหรับปี 2567 สูงกว่ารายได้ค่าถ่านหินที่สามารถเรียกเก็บจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ส่วนปี 2566 ไม่มีขาดทุนจากค่าเชื้อเพลิงส่วนต่าง เนื่องจากหยุดเดินเครื่อง (Reserved shutdown) ตามแผนการเดินเครื่องของ กฟผ. โรงไฟฟ้า SRC มีกำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากในปี 2566 มีการเดินเครื่องโดยใช้น้ำมันดีเซล ขณะที่ในปี 2567 มีการเดินเครื่องด้วยก๊าซธรรมชาติซึ่งมีกำไรผันแปรต่ำกว่าการเดินเครื่องโดยใช้น้ำมันดีเซล ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 2,171ล้านบาท ลดลง 252 ล้านบาท หรือ 10%
โดยหลักมาจากค่าที่ปรึกษาพัฒนาธุรกิจลดลง รายได้อื่น สุทธิ จำนวน 1,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270 ล้านบาท หรือ 23% ซึ่งมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น 459 ล้านบาท หรือ 75% จากการบริหารจัดการกระแสเงินสดภายในบริษัทฯ ขณะที่มีการบันทึกการปรับมูลค่าเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าของ บริษัท ไทยโซล่าร์รีนิวเอบิล จำกัด (TSR) โดยเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีและเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดในอนาคตจำนวน 172 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 2567 จำนวน 300 ล้านบาท ลดลง 223 ล้านบาท หรือ 43% เนื่องจากมีการปรับปรุงค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ของปี 2566 จากการใช้ประโยชน์ของผลขาดทุนสะสมทางภาษี และภาษีเงินได้รอตัดบัญชี ส่งผลให้ภาพรวมรายการภาษีเงินได้ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นชอบการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2567 เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ประจำปี 2568 โดยบริษัทฯ เสนอจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2567 จำนวน 0.90 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิที่ 62.5%
ประกอบด้วยการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 0.45 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,268,878,215 บาท ซึ่งได้จ่ายแล้วเมื่อ วันที่ 24 กันยายน 2567 และการจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 6 เดือนหลังของปี 2567 จำนวน 0.45 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,268,878,215 บาท โดยมีกำหนดจะจ่ายปันผลดังกล่าวในวันที่ 23 เมษายน 2567 หลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568