ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่14ก.พ.ที่ระดับ 33.63 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทยังคงมีทิศทางแข็งค่าตามแรงหนุนราคาทองคำในตลาดโลกในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุนเนื่องจากตลาดประเมินว่า มาตรการตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐฯ อาจจะยังไม่เริ่มในเร็วๆ นี้ สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 824.32 ล้านบาท แต่ขายสุทธิพันธบัตรไทย 647.5 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -20.02 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -16.82 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (17-21 ก.พ.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.00-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 ของไทย สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและสถานการณ์เงินทุนต่างชาติ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ
ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนก.พ. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 28-29 ม.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน ผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย
และธนาคารกลางอินโดนีเซีย ดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน