นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) เปิดเผยว่า จากประเด็นประธานาธิบดี "ทรัมป์" ประกาศใช้อำนาจประธานาธิบดีลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ พุ่งเป้าลดราคาพลังงานในสหรัฐฯ
โดยตั้งธงว่าจะลดราคาน้ำมันเบนซินและค่าไฟของชาวอเมริกันลงครึ่งหนึ่งภายในช่วงปีแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี รวมถึงการสนับสนุนพลังงานฟอสซิล ทั้งเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน ตั้งโรงกลั่นน้ำมันใหม่ รวมถึงสร้างโรงไฟฟ้าใหม่
ต้องยอมรับว่าราคาพลังงานเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ดึงค่าครองชีพของประชาชน แต่การที่ทรัมป์สนับสนุนพลังงานฟอสซิล ทำให้ทั่วโลกต่างมีความกังวลใจว่าอาจมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลก เนื่องจากซัพพลายน้ำมันดิบในตลาดมีเพิ่มมากขึ้นจากฝั่งสหรัฐฯ
ในขณะที่เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ดีมานด์ที่อยู่ไม่อาจดูซับซัพพลายที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ทั้งหมด ท้ายที่สุดราคาน้ำมันดิบก็ถอยหลังลง ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นพลังงานต้นน้ำ อย่าง PTTEP แน่นอน
ทั้งนี้ ในมุมมองส่วนตัวกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ราคาพลังงานไม่ได้อยู่ในระดับสูงเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ประชาชนมีภาระค่าครองชีพที่ลดลง เศรษฐกิจดีขึ้น อีกทั้งในแง่ธุรกิจยังเป็นผลดีกับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานจำนวนมาก
นอกจากนี้ จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงแล้ว ยังมีผลต่อราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้ปรับตัวลดลงด้วยเช่นเดียวกัน มองว่าจะเป็นผลบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีโครงการ SPP ของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีประเด็นเรื่องของการปรับลดค่าไฟฟ้าจาก 4 บาทให้ลงเหลือ 3.5-3.7 บาท/หน่วย
ด้วยต้นทุนพลังงานไฟฟ้าของผู้ประกอบการปรับตัวลดลง ส่งผลให้การที่ภาครัฐจะลดค่าไฟฟ้าให้ลงมาในระดับดังกล่าว ภาคเอกชนผู้ประกอบการก็อาจไม่ได้เจ็บตัวหรือเข้าเนื้อหนัก หรืออาจเสมอตัว ทำให้ความเป็นไปได้ในกรลดค่าไฟฟ้าของไทยยังมีโอกาส
โดยหุ้นที่เชื่อมโยงการเหวี่ยงของราคาก๊าซ โดยเฉพาะผู้ที่มีโครงการขนาด SPP ในมือจำนวนมาก ได้แก่ GPSC และ BGRIM มองว่าปัจจุบันยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นดังกล่าวมีการปรับตัวลงมาลึกพอสมควรแล้ว รองลงมา คือ GULF ที่มีต้นทุนในส่วนของ SPP ส่วนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ส่วนหลัก
นอกจากนี้ ยังได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจาก Bond Yield อยู่ในระดับที่ต่ำ และค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า สำหรับกลยุทธ์ในการลงทนหุ้นกลุ่มพลังงานนั้น ทางฝ่ายมองว่าปัจจุบันเป็นช่วงที่เหมาะกับการเก็งกำไรมากกว่า และต้องใช้ความระมัดระวัง
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ทรัมป์ประกาศจะอนุมัติให้มีการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน ตั้งโรงกลั่นน้ำมันใหม่ รวมถึงสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลง
โดยมองเป็นลบต่อแนวโน้มราคาพลังงานในระยะยาวต่อ ราคาน้ำมันดิบ ราคาก๊าซ LNG รวมถึงส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ที่อ่อนตัวตามอุปทานที่สูงขึ้น แน่นอนว่าเป็นลบต่อ PTTEP TOP SPRC และ BCP เป็นต้น
แต่มีมุมมองที่เป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า มีโอกาสที่ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกลดลง จากการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติที่มากขึ้นของสหรัฐฯ จะช่วยเพิ่มอุปทานในตลาดโลกมากขึ้น หุ้นที่ได้ positive sentiment จากประเด็นดังกล่าว คือ GPSC BGRIM และ GULF