ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 13ม.ค.ที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์

13 ม.ค. 2568 | 18:14 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 18:22 น.

ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคในวันพรุ่งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม  สัญญาณฟันด์โฟลว์ ทิศทางเงินหยวนและสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่ 34.83 (นับตั้งแต่ 19 พ.ย. 2567) ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ  

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ประกอบกับมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ

สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า เฟดไม่น่าจะรีบลดดอกเบี้ยนโยบายเพราะตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังมีทิศทางค่อนข้างดี สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ แม้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 118.2 ล้านบาท แต่ก็ขายสุทธิพันธบัตรไทย 5,097 ล้านบาท 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 13 มกราคม 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -20.87 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -17.97 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่  34.65-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณฟันด์โฟลว์ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ