KBANK คาดบาทแข็งค่าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-34.50

14 ธ.ค. 2567 | 13:25 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ธ.ค. 2567 | 13:25 น.

KBANK คาดเงินบาทสัปดาด์หน้า แข็งค่าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-34.50 บาทต่อดอลลาร์ หลังปิดตลาดสัปดาห์ก่อนที่ 34.13 บาท/ดอลลาร์ จับตาประชุมกนง.-เฟด-BOJ-BoE

ธนาคาร กสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท สัปดาห์หน้า (16-20 ธ.ค.) ที่ 33.60-34.50 บาท/ดอลลาร์ หลังจากปิดตลาดใวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค. ที่ 34.13 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับเงินดอลลาร์ขาดแรงหนุน เนื่องจากตลาดประเมินโอกาสความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC)เดือนธ.ค.นี้

อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงตามทิศทางเงินหยวนและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคท่ามกลางการคาดการณ์ของตลาดว่า ทางการจีนอาจทยอยปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงในปี 2568 เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากมาตรการภาษีการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากการร่วงลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป(ECB) และตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด

สัปดาห์หน้าปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่

  • ผลการประชุมคฯะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 18 ธ.ค.
  • ผลการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ธ.ค.และ Dot Plot ของเฟด
  • ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 18-19 ธ.ค.
  • ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) วันที่ 19 ธ.ค.
  • การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน
  • รวมถึงสัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่

  • ดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการ (เบื้องต้น)
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม
  • ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสอง
  • อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนพ.ย.
  • ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 (final)
  • ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิต/บริการ (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ของอังกฤษและยูโรโซน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรด้วยเช่นกัน