"ประกิต" ชี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบไตรมาส 4/67 ทะลุ 40 บาท

23 ต.ค. 2567 | 14:20 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ต.ค. 2567 | 14:20 น.

"ประกิต ประสิทธิ์ศุภผล" แม่ทัพใหญ่ PCE ชี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบไทยไตรมาส 4/67 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะลุ 40 บาท/กก. แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หนุนยอดขาย PCE ครึ่งปีหลังโดดเด่น มั่นใจยอดขายทั้งปีโต10-15% ตามเป้า

นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาเฉลี่ยน้ำมันปาล์มดิบในประเทศในไตรมาส 4/2567 ณ วันที่ 21 ต.ค.67 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่งผลให้ราคานำมันปาล์มดิบในประเทศปัจจุบันอยู่ที่ระดับกว่า 40 บาทต่อกิโลกรัม จาก 37 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับว่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 66 เป็นไปตามการปรับราคาของตลาดโลกที่มาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลปาล์มสดในตลาดมีปริมาณลดลงซึ่งเป็นไปตามช่วงฤดูกาล ส่งผลต่อปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ออกสู่ตลาดในประเทศลดลงตาม

โดยในไตรมาส 4/2567 ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากการบริโภค อุปโภค และความต้องการด้านพลังงานในช่วงเทศกาล ตลอดจนความต้องการของประเทศอินโดนีเซีย ที่มีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลัง ณ เดือน มิ.ย.67 เหลืออยู่ที่ 2.51 ล้านตัน หรือลดลงราว 20% จากปี 66

จากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมไบโอดีเซลในสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลที่ 35% และจะมีการปรับสัดส่วนขึ้นเป็น 40% ในปี 68 ที่จะส่งผลให้มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอีก 4-5 แสนตันต่อไตรมาส ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีก

นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE

เช่นเดียวกับประเทศมาเลเซีย ณ สิ้นไตรมาส 3/67 มีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังอยู่ที่ 2.01 ล้านตัน ลดลงกว่า 10% และไทยมีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังอยู่ที่ 0.296 ล้านตัน ลดลง 18% จากปี 66 แต่มีแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มมากขึ้น

"ราคาน้ำมันปาล์มดิบยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยผลปาล์มสดในประเทศของไตรมาส 4 ที่ลดลงตามฤดูกาลที่กล่าวมา ซึ่งสวนทางกับความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่ออุปโภคและบริโภค และด้านพลังงานในช่วงเทศกาลที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6-7 แสนตัน ประกอบกับมาเลเซียมีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับอินโดนีเซียต้องที่มีการใช้น้ำปาล์มดิบเพิ่ม"

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นทำให้มองว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อ PCE ที่สามารถรองรับความต้องการบริโภคได้อย่างครอบคลุม และช่วยส่งเสริมให้ผลประกอบการในครึ่งปีหลัง 2567 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยมีเป้าหมายการขายทั้งปีเติบโตที่ 10-15%