นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ว่า การเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนให้กับประชาชนรายย่อย และนักลงทุนสถาบันฯ มียอดจองรวมเข้ามาทั้งหมด 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากรอบวงเงินที่กระทรวงการคลังวางไว้ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)นั้น กระทรวงการคลังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการจองของรายย่อยจำนวนเท่าใด และเป็นของนักลงทุนสถาบันฯ จำนวนเท่าใด
แต่ยืนยันว่า ประชาชนรายย่อยที่เข้ามาจองซื้อได้รับการจัดสรรทั้งหมด 100% ส่วนที่จองเกินมา 4 หมื่นล้านบาทนั้น เป็นของนักลงทุนสถาบันฯ ซึ่งต้องตัดวงเงินนั้นออก
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ นักลงทุนสถาบันฯ จะทราบผลการจัดสรรจองซื้อหน่วยลงทุน กองทุนรวมวายุภักษ์ ขณะที่รายย่อยนั้น จะทราบผลการจัดสรรในวันที่ 25 ก.ย.นี้
“หลังจากรายย่อย และนักลงทุนสถาบันฯ ได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์แล้ว เรามองว่าทิศทางของตลาดหุ้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยตอนนี้รายย่อยได้จ่ายเงินซื้อจองหน่วยลงทุนเข้ามาแล้ว และนักลงทุนสถาบันฯ จะจ่ายเงินซื้อจองภายในสัปดาห์นี้ จะทำให้เรามีเงินครบกรอบ 1.5 แสนล้านบาท แล้วเริ่มเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นในเดือนต.ค.67”
สำหรับหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ราคาหน่วยละ 10 บาท ผู้ลงทุนต้องลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นครั้งละ 100 หน่วย หรือ 1,000 บาท
ซึ่งกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีกลไกการคุ้มครองเงินต้น ให้ผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ต่อปี และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง 9% ต่อปี มีการจ่ายปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เปิดโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว 10 ปี
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่จองซื้อ หากไม่ได้รับจัดสรรครบจำนวน จะได้รับเงินที่ชำระไว้เกินคืนภายใน 7 วันทำการหลังสิ้นสุดการจองซื้อของผู้ลงทุนทุกประเภท หรือไม่เกินวันที่ 8 ต.ค.67