นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ลงนามต่ออายุ MOU ส่งเสริมความรู้ทางการเงินกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
โดยการลงนาม MOU ครั้งนี้ มีกำหนดระยะเวลา 4 ปี เพื่อเป็นการผนึกกำลังขยายองค์ความรู้ให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ระดับนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน แรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้ทางการเงิน สามารถบริหารจัดการหนี้ วางแผนการออมได้อย่างเหมาะสม และมีเงินไว้ใช้จ่ายเพียงพอในยามเกษียณ
"การขยายความร่วมมือในครั้งนี้ มองว่าเป็นการทำงานต่อเนื่องไม่ใช่แค่เพิ่งเริ่มต้น เพราะมีความหวังว่าคนไทยจะสามารถเกษียณด้วยความสุข มีเงินเก็บเพียงพอใช้ ดังนั้นจึงมองเรื่องดังกล่าวมันต้องถูกปลูกฝังพื้นฐานมาตั้งแต่ต้น เด็กควรได้รับความรู้ มีความเข้าใจและวางแผนการเก็บออม การจัดการการเงินเป็น ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง กอช. และ กยศ. เข้าใจ และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เหมือนเข้ามาเป็นแขนขาให้กับ ตลท. ได้ เพราะเรื่องเล่านี้เราคงทำเองโดยลำพังคนเดียวไม่ได้แน่"นายศรพล กล่าว
ด้วยมองเห็นว่าปัจจุบันสังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินที่หลากหลาย เช่น ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น และการที่สังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) แต่คนไทยส่วนใหญ่ประสบปัญหาแก่ก่อนรวย มีเงินใช้ไม่เพียงพอในวัยเกษียณ
ดังนั้้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้เร่งส่งเสริมความรู้ทางการเงินที่เป็นทักษะสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนทุกช่วงวัย ซึ่งเป็นแผนกลยุทธ์สำคัญและสอดรับกับแนวคิด ร่วมสร้างอนาคต เพื่อโอกาสของทุกคน ในโอกาสที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก้าวสู่ปีที่ 50 แล้ว
ในช่วงตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ในความร่วมมือดังกล่าว สามารถสร้างการรับรู้ และผลกระทบในเชิงบวกต่อกลุ่มเป้าหมายโดยเฉลี่ยได้แล้วมากกว่า 3-5 ล้านราย และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาองค์ความรู้การเงินการลงทุนและเครื่องมือในการเรียนรู้ SET e-Learning ให้ทันสมัย มีหลักสูตรหลากหลาย ตอบโจทย์การเรียนรู้วิถีใหม่ พร้อมทำงานร่วมกับพันธมิตรในการนำความรู้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
พร้อมกันนี้ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนความรู้ทางการเงินและการลงทุนให้แก่ประชาชนมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ โดยร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านกิจกรรมการให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นระบบ อาทิ โครงการ “Happy Money, Happy Young Old ปูนนี้ (ก็) มีใช้” โครงการ “Happy Money พี่เลี้ยงการเงิน”
รวมไปถึงสื่อความรู้ออนไลน์ทั้งบทความ คลิปความรู้ อินโฟกราฟิก ต่างๆ ตลอดจนหลักสูตรออนไลน์ SET e-Learning ครอบคลุมที่มีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ด้านการวางแผนทางการเงิน การบริหารจัดการหนี้ การวางแผนเพื่อเกษียณ และการลงทุน เป็นต้น
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กอช. ให้การสนับสนุนและส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการลงทุน ตลอดจนส่งเสริมความยั่งยืนทางสังคมในด้านการสร้างหลักประกันบำนาญขั้นพื้นฐานในอนาคต ยกระดับการเรียนรู้วิถีใหม่ในโลกยุคดิจิทัล ให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดี
ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ กอช. คือ “มุ่งสร้างฐานการออม ขับเคลื่อนบำนาญภาคประชาชนอย่างทั่วถึง” ปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกกว่า 2.6 ล้านคน สำหรับความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และ กอช. มีมาตั้งแต่ปี 2561 ได้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นอย่างดีในการผลักดันความรู้ความเข้าใจการวางแผนการเงินให้กับประชาชน สร้างความเข้มแข็ง และมีสุขภาพการเงินที่ดี
สามารถเกษียณอายุอย่างมีคุณภาพ ผ่านการออมเงินกับ กอช. และจากความสำเร็จที่ผ่านมา จึงได้ร่วมลงนามต่ออายุ MOU เพื่อขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันในการมุ่งมั่นวางแผนการเงินให้กับคนไทย และสร้างความเข้าใจในการจัดการทางการเงิน โดยเฉพาะการวางแผนเพื่อการเกษียณ ให้เกิดความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพต่อไป
"ทาง กอช. มีเป้าหมายที่จะขยายฐานการให้ความรู้กับกลุ่มเยาวชนอายุตั้งแต่ 15-22 ปี เพราะมองว่าเยาวชนในปัจจุบันมีการเรียยนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น มีทั้งที่ถูกบ้าง ผิดบ้าง จะเป็นการดีกว่าหากเราได้เข้าไปช่วยเป็นอีกแรงสนับสนุนการเรียนรู้การวางแผนทางการเงินที่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น เด็กสมัยนี้รู้เรื่องของการเทรดบิตคอยน์แล้ว ทั้งที่ไม่รู้ว่ามีความเสี่ยงมากแค่ไหน"นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า กยศ. มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนไทย โดยเฉพาะความรู้ทางการเงินที่ทุกคนควรมี เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา
และมีความรับผิดชอบในการชำระเงินคืนกองทุน กองทุนและตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความร่วมมืออันดีมายาวนานถึง 7 ปี ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีหลักสูตร SET e-Learning วางแผนการเงิน การลงทุน และการเป็นผู้ประกอบการจำนวนทั้งสิ้น 71 หลักสูตร
พร้อมให้นักเรียนนักศึกษาผู้กู้ยืมเข้าไปเรียนรู้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และนำไปสะสมจำนวนชั่วโมงจิตสาธารณะตามหลักเกณฑ์ที่กองทุนกำหนด และมียอดผู้เข้าเรียนสะสมกว่า 10 ล้านครั้ง ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผลเชิงประจักษ์จากจำนวนผู้เข้าเรียนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะทุกปี
กองทุนคาดหวังให้ผู้กู้ยืมทุกคนได้มีความรู้ทางการเงิน เพื่อสามารถบริหารจัดการรายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สินของตนเองได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมและสร้างโอกาสให้แก่ตนเองในอนาคต ตลอดจนสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมให้กองทุนได้ตามกำหนด เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กรในครั้งนี้จึงเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จเดิมด้วยการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินสำหรับเยาวชนไทยให้เข้มแข็ง อันจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต