ทั้งนี้มีบางประเด็นที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เร็ว ได้แก่
- การเดินหน้าแจกเงินสดให้แก่กลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้พิการวงเงิน 1.45 แสนลบ. ในเดือน ก.ย. นี้ และเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตในอนาคต
- การประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างคลังและ รปท. ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันซึ่งคาดจะทำให้มี โอกาสนโยบายการเงินผ่อนคลายขึ้นและการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน
- เดินหน้าขยายกองทุนวายุภักษ์ ตามแผนเดิมของรัฐบาลก่อน เพื่อสร้าง ความเชื่อมั่นและรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นไทย ส่วนประเด็นที่เหลือคงต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณาดำเนินการต่อไป
กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้น มีมุมมองบวกต่อ SET และเศรษฐกิจไทย หลังการเปิด Vision ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ซึ่งคาดมีโอกาสเป็นแผนของรัฐบาล ชุดใหม่ที่จะน่าไปดำเนินการเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ประเด็นที่คาดจะเห็นผลในระยะสั้น คือ
- การแจกเงินสดให้กลุ่ม เปราะบาง + กลุ่มผู้พิการ ในเดือน ก.ย. ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อและหนุนบรรยากาศจับจ่ายใช้สอย จึงเป็นบวกมากสุดต่อกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPAXT,CPALL, BJC, TNP และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (OSP CBG) ส่วนกลุ่มรองมาที่คาดได้ประโยชน์ทางอ้อม คือ กลุ่มสื่อโฆษณาและกลุ่ม ร้านอาหาร
- การขยายกองทุนวายุภักษ์ คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศลงทุนจากเม็ดเงินใหม่ที่จะไหลเข้าสู่ตลาด (ข่าวล่าสุด 1-1.5 แสนลบ.) และ ช่วยรักษาเสถียรภาพให้กับตลาดด้วย โดยเฉพาะหุ้น SET50-SET100
- การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจ มองเป็นกลางต่อกลุ่ม ธนาคาร แต่อาจส่งผลบวกต่อกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มยานยนต์จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น
ส่วนนโยบายที่เหลือคาดเป็นโอกาสส่งผลบวกในระยะยาว ซึ่งเรายังให้น้ำหนักน้อย เนื่องจากต้องมีการศึกษา เจรจาเพิ่มเติม โดยหากทำได้จริงจะส่งผลบวกต่อ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มขนส่ง กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน กลุ่มอาหาร กลุ่มอสังหา กลุ่มนิคม กลุ่มสื่อสาร กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง