EA-NEX จ่อเพิ่มทุน 8 พันล้าน ประกาศล่าตัว คนทำลายความเชื่อมั่นธุรกิจ

12 มิ.ย. 2567 | 15:41 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2567 | 15:41 น.

บิ๊ก "สมโภชน์ อาหุนัย" ตัดพ้อ EA-NEX แพะรับบาปผลกระทบจาก Money Game ทำลายความเชื่อมั่นในตลาดทุนและธุรกิจ เดินหน้าเอาโทษผู้กระทำผิด สิ้นเดือนยื่นเรื่องก.ล.ต. จ่อเพิ่มุทนกว่า 8 พันล้าน เสริมแกร่งธุรกิจ เฟสแรกเห็นความชัดเจนไตรมาส 3/67

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX  เปิดเผยว่า บริษัทต้องการให้นักลงทุนและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าใจถึงสถานการณ์ของ EA และ NEX ได้อย่างถูกต้อง และเห็นภาพที่ชัดเจนถึงการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ เพราะได้รับผลกระทบจาก Money Game ที่มาทำลายความเชื่อมั่นในตลาดทุน และกำลังจะทำลายธุรกิจไปด้วย

และกระแสข่าวลือเชิงลบต่างๆ ทำให้คู่ค้าและซัพพลายเออร์เกิดความวิตกกังวล จึงเป็นที่มาแห่งการเพิ่มทุนของ NEX ในครั้งนี้ เพียงพอที่จะทำให้บริษัทดำเนินธุรกิจในอนาคตได้อย่างราบรื่น และก่อให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งจากลูกค้าและซัพพลายเออร์ ซึ่งการเพิ่มทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน

โดยส่วนแรกจะขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 75 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.55 บาท พร้อมรับวอร์แรนท์อีก 75 ล้านหน่วย มีอัตราการใช้สิทธิแปลงสภาพ 1 หน่วยต่อ 5 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในอัตรา 12.75 บาท ซึ่งจะจัดสรรให้กับนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา และพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ เพื่อให้คงสถานะเป็น Major Shareholder เพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้มีความมุ่งมั่นในการผลักดันธุรกิจให้เติบโตสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไปในอนาคต

 

EA-NEX จ่อเพิ่มทุน 8 พันล้าน ประกาศล่าตัว คนทำลายความเชื่อมั่นธุรกิจ

ส่วนที่สองแบ่งออกเป็น 2 ชุดซึ่งจะจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมภายในปี 2567 ชุดแรกจำนวน 2,096.82 ล้านหุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นละ 1 บาท เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายหลังจากการประชุมบอร์ดในเดือนนี้ไม่เกิน 45 วัน หรือภายในไตรมาส 3/2567 และชุดที่สองจำนวนไม่เกิน 6,290.48 ล้านหุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1.5 หุ้นเพิ่มทุน ราคาหุ้นละ 1
บาท  

สาเหตุที่จัดแบ่งออกเป็นสองชุด เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการทำธุรกิจทันที เมื่อได้เงินก้อนแรกมาทีมผู้บริหารจะทำงาน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทไปต่อได้และมีอนาคต จากนั้นจึงจะเรียกเพิ่มทุนในชุดที่สอง ทั้งนี้ได้เปิดเผยข้อมูลให้เห็นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลเท่าเทียมกันและมีสิทธิตัดสินใจว่าจะเลือกแนวทางใด

"ในตอนนี้ตลาดทุนกำลังทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อ Real Business ทำให้ EA และ NEX กลายเป็นแพะรับบาป ทุบหุ้นตัวเอง ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้และพวกเราต่างก็ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างหนักด้วยเช่นกัน ตอนนี้ NEX กำลังเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจาก Money Game ถามในมุมกลับกันใครจะกล้าทำลายธุรกิจที่สร้างมากับมือ เรามีความคาดหวังในธุรกิจค่อนข้างมาก และยังมองเห็นโอกาสในการเติบโตในอนาคต เรื่องนี้จึงทำให้เราไม่นิ่งนอนใจ และจะเร่งรวบรวมเอกสารเพิ่มดำเนินการเอาโทษกับผู้กระทำผิด โดยคาดจะเห็นการยื่นเรื่อตย่อ ก.ล.ต. ภายในสิ้นเดือนนี้แน่นอน"นายสมโภชน์ กล่าว

ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง EA กับ NEX จะให้การสนับสนุน และเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมในการช่วยต่อยอดและขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 33.14 % ใน NEX รวมไปถึงการใส่เงินเพิ่มทุนเพื่อให้ NEX เพื่อให้มีศักยภาพสามารถขยายธุรกิจเพิ่มเติม รวมถึงรองรับการลงทุนใหม่ๆ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับบรรดาพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจ

ส่วนราคาหุ้น EA และ NEX ที่ปรับลดลงลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษกระทรวงยุติธรรม หรือ ดีเอสไอ (DSI) ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 นี้ ในมาตรา 244/3  ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ห้ามมิให้บุคคลใดกระทำการ ดังต่อไปนี้ 

  1. ส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือซื้อหรือขายหลักทรัพย์ อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์
  2. ส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ในลักษณะต่อเนื่องกันโดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณกาซื้อหรือขายหลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่เป็นข้อสังเกตคือ ที่ผ่านมามีแรงขายหุ้น EA และ NEX มาจากการเปิดให้มีการใช้โปรแกรม Robot Trade ซึ่งมีความได้เปรียบในเรื่องของความเร็วในการซื้อขายหุ้นและสร้าง Negative moment มีการทำ Short Sell รวมถึงช่องโหว่การทำ NakedShort ผ่านกระดาน NVDR ซึ่งเป็นเจตนาเพื่ออำพรางธุรกรรม ขณะนี้หลายประเทศได้ระงับเรื่องการทำ Short Sell  เพราะเห็นว่าไม่ใช่ธุรกรรมที่สร้างสรรค์

ขณะที่ประเทศไทยปัจจุบันระบบคัสโตเดียนกับระบบซื้อขายหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ได้เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้มีช่องโหว่หลบเลี่ยงได้ และที่ผ่านมาการกระทำส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน ดังนั้นควรระงับไว้ก่อนหรือไม่ ภายหลังจากปรับปรุงระบบให้เสร็จสมบูรณ์แล้วค่อยนำกลับมาใช้ อย่างไรก็ดี การที่บริษัทตัดสินใจที่จะไปร้องต่อ ก.ล.ต. และดีเอสไอ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดทั้งยังเป็นการช่วยปกป้องบริษัทจดทะเบียนรายอื่นๆ ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก และไม่ให้ Money Game มาทำลาย Real Business

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX กล่าวว่า ในปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 5,000 คัน จากในช่วงไตรมาส 1/2567 ที่มีการส่งมอบรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับลูกค้าไปเกือบ 600 คัน แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงครึ่งแรกปีนี้ยอดขายและการส่งมอบอาจหย่อนกว่าเป้าหมายอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นโลวซีซันของธุรกิจ

แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2567 จะได้เห็นการเติบโตดีกว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้มีแผนเข้าร่วมเสนองานใหม่หลายโครงการ และจะร่วมประมูลงานยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาครัฐ, รัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน ที่มีความสนใจและนำรถไฟฟ้ามาใช้ในองค์กร เช่น รถโดยสารไฟฟ้า, รถเมล์สาธารณะไฟฟ้า, รถรับ-ส่งพนักงาน, รถรับ-ส่งนักศึกษาในมหาวิทยาลัย, รถขนขยะไฟฟ้า และรถหัวลากไฟฟ้า เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทก็จะเร่งขยายการเติบโตตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ EA  มั่นใจว่ายอดขายจะโตตามเป้าแน่

 

EA-NEX จ่อเพิ่มทุน 8 พันล้าน ประกาศล่าตัว คนทำลายความเชื่อมั่นธุรกิจ

 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน การออกและเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Warrant for Private Placement) การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) ดังนี้

มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น (15 ส.ค.67) พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 8,837,309,596 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,021,827,399 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 10,859,136,995 บาท
โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8,837,309,596 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00บาท แบบกำหนดวัตถุประสงค์ เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ให้กับ

  1. เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
  2. เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Warrant forPrivate Placement)
  3. เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering : PPO)

การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หน่วย และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 5 หุ้นสามัญ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีอายุ 3 ปี ระยะเวลาการใช้สิทธิทุกๆ 6 เดือน ราคาใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิหน่วยละ 12.75 บาท ต่อหน่วย

การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 75,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็น 3.76% ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว จัดสรรให้แก่ ผู้สนใจลงทุน ซึ่งสามารถส่งเสริมเกื้อกูลต่อธุรกิจทั้งในปัจจุบันและโครงการในอนาคตของบริษัทฯ ได้ โดยจะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (business partner) และมีบทบาทในการส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัทให้บรรลุตามแผนงานได้ ทั้งนี้ ผู้สนใจทุกรายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด

จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้แต่ละรายจะไม่มีรายใดเข้ามาถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชำระแล้ว โดยบริษัทอาจจัดสรรในคราวเดียว หรือหลายคราวได้ โดยกำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ 2.55 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกินกว่า 191,250,000 บาท

จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 375,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จะจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 75,000,000 หน่วย

จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน การถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering :PPO) โดยบริษัทจะออกและเสนอ ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งเดียวเต็มจำนวนหรือบางส่วนก็ได้โดยเสนอขายเป็นคราวเดียวหรือเป็นคราวๆ ไปก็ได้ ทั้งนี้ การเสนอขายราคาหุ้นละ 1 บาท โดยการจัดสรรหุ้นจะดำเนินการ 2 ครั้ง ซึ่งกำหนดในอัตราส่วนดังนี้

  • ครั้งที่ 1 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่
  • ครั้งที่ 2 กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 1.5 หุ้นใหม่