บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ประเมินแนวโน้มผลประกอบการของหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ในไตรมาส 1-2/2567 คาดจะเติบโตได้ทั้งจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน แม้มีฐานที่สูงจากทั้งแนวโน้มการส่งออกที่คาดจะขยายตัวต่อ และราคาน้ำตาลที่คาดปรับตัวลงต่อ ประกอบกับการเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของภูมิภาคยุโรปที่เป็นช่วง High season ของธุรกิจ
ฝ่ายวิจัยยังคงน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่มากกว่าตลาด หลังจากแนวโน้มการส่งออกเครื่องดื่มที่คาดสดใสตลอดทั้งปี 2567 และปัจจัยกดดันราคาน้ำตาลที่คลี่คลายมากขึ้น ขณะที่ในประเทศการบริโภคฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน และมี Catalyst จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของทางภาครัฐทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้นในกลุ่มปัจจุบันปรับตัวขึ้นสะท้อนปัจจัยบวกไปมากพอสมควรแล้ว ฝ่ายวิจัยจึงชอบหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีเช่นกันแต่ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่ม โดยเลือก SAPPE ราคาเป้าหมายที่ 110.00 บาท จากแนวโน้มผลประกอบการที่คาดทำ New High ได้ตั้งแต่ในไตรมาส 1/2567 และต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3/2567 และเลือก COCOCO ราคาเป้าหมายที่ 14.10 บาท จากแนวโน้มผลประกอบการที่คาดกลับมาทำ New High ได้ตั้งแต่ในไตรมาส 2/2567 และต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/2567 และยังมี Upside gain 6.8%
บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยในบทวิเคราะห์ว่า ทางฝ่ายคาดผลประกอบการของกลุ่มอาหารจะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของราคาหมูในไทยและเวียดนาม รวมถึงต้นทุนที่ปรับตัวลง ทั้งนี้ คาดว่า TFG จะพลิกกำไรได้ในไตรมาส 1/2567 ก่อนหน้ากลุ่ม เนื่องจากราคาหุ้นที่ของกลุ่มปรับตัวขึ้นมา ดังนั้น ทางฝ่ายจึงแนะนำเลือกซื้อหุ้นแบบรายตัว (selective BUY) โดยมีหุ้น Top picks ของทางฝ่ายคือ TFG และ TU คงคำแนะนำกลุ่มเป็น “Overweight”