ดาวโจนส์ปิดลบ 9.13 จุด ท่ามกลางซื้อขายซบเซา ตลาดจับตาเงินเฟ้อสหรัฐ

10 เม.ย. 2567 | 06:56 น.
อัปเดตล่าสุด :10 เม.ย. 2567 | 07:00 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันอังคาร (9 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ และรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน ในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,883.67 จุด ลดลง 9.13 จุด หรือ -0.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,209.91 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,306.64 จุด เพิ่มขึ้น 52.68 จุด หรือ +0.32%

ไมเคิล กรีน นักวิเคราะห์จากบริษัท Simplify Asset Management ในรัฐฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าดัชนี CPI อาจส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนก.พ.

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 1.29% และ 0.55% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวลง 0.50% และ 0.22% ตามลำดับ

หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 6.2% หลังจากมีรายงานว่าวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งที่โมเดอร์นาพัฒนาร่วมกับบริษัทเมอร์ค แอนด์ โคนั้น ให้ผลเป็นที่น่าพอใจในการทดลองเบื้องต้น

หุ้นบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีร่วงลงตามทิศทางราคาบิตคอยน์ นำโดยหุ้นคอยน์เบส โกลบอล (Coinbase Global) ร่วงลง 5.5% และหุ้นไมโครสตราเทจี (MicroStrategy) ปรับตัวลง 4.8%

บิล นอร์ธีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัท U.S. Bank Wealth Management ในรัฐมอนทานากล่าวว่า นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2567 ของธนาคารรายใหญ่ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึง เจพีมอร์แกน, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป โดยผลประกอบการของธนาคารเหล่านี้ถือเป็นดัชนีชี้วัดความแข็งแกร่งของภาคเอกชนสหรัฐ

แอลเอสอีจี (LSEG) เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทในดัชนี S&P500 จะเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงจากระดับ 7.2% ในการสำรวจก่อนหน้านี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมร่วงลงสู่ระดับ 88.5 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555 และเป็นการปรับตัวต่ำกว่าระดับ 98 ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในรอบ 50 ปีเป็นเดือนที่ 27 ติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการขาดแคลนแรงงาน

นอกเหนือจากดัชนี CPI แล้ว นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ส่วนในวันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค. สำหรับในวันศุกร์นี้จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน