TGE ผู้ถือหุ้นไฟเขียวเข้าบริหารโรงไฟฟ้าก๊าซ 2 โปรเจ็กต์ 349.9 ล้านบาท

18 ม.ค. 2567 | 10:48 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ม.ค. 2567 | 12:48 น.

TGE ผู้ถือหุ้นอนุมัติเข้าบริหารโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 2 แห่ง ขนาด 2.8 MW และ 4.2 MW ผูกสัญญา 4 ปี 9 เดือน มูลค่า 349.90 ล้านบาท เริ่มบุ๊กรายได้ ม.ค.นี้ พร้อมแจกวอร์แรนท์ฟรี 7:1 ราคาใช้สิทธิ 1 บาท

KEY

POINTS

TGE ผู้ถือหุ้นอนุมัติเข้าบริหารโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 2 แห่ง ขนาดกำลังผลิต 2.8 MW และ 4.2 MW ผูกสัญญา 4 ปี 9 เดือน มูลค่ารวม 349.90 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567

TGE เคาะแจกวอร์แรนท์ฟรี 7:1 ราคาใช้สิทธิ 1 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record Date) ในวันที่ 25 มกราคม 2567

TGE อยู่ระหว่างการเตรียมเข้าประมูลโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันเป้าหมายการเติบโตในอนาคตอย่างก้าวกระโดดสู่กำลังการผลิตรวม 200 เมกะวัตต์ ตามแผน

นายพงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGE ผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 มีมติอนุมัติให้ TGE ทำสัญญาบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพในฐานะผู้รับจ้างกับ บริษัท ท่าฉาง ไบโอแก๊ส จำกัด (TBG) โดยมีระยะเวลาของสัญญา 4 ปี 9 เดือน นับจากวันที่มีผลผูกพันตามสัญญา

โดยการเข้าทำสัญญากับ TBG ในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับ TGE ในการขยายธุรกิจการให้บริการ บริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ขนาดกำลังการผลิต 2.8 เมกะวัตต์ (MW) และ 4.2 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่ง TGE ทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการโรงไฟฟ้า โดยใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิง เพื่อจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดย TGE จะได้รับรายได้ในสัดส่วน 50% จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตลอดอายุสัญญา 4 ปี 9 เดือน จาก TBG โดยประเมินมูลค่าผลตอบแทนอยู่ที่ 332.40 ล้านบาท

พงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล

 

เมื่อรวมกับมูลค่าผลตอบแทนจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ระยะเวลา 3 เดือนแรกก่อนเข้าทำสัญญาระยะยาวดังกล่าวอีก 17.50 ล้านบาท จะทำให้มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ มีจำนวนประมาณ 349.90 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2571 ขณะที่ TGE ไม่มีภาระหน้าที่ในการจัดหาแหล่งเงินทุนในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 157,142,857.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,100,000,000 บาท เป็น 1,257,142,857.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 314,285,715 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (TGE-W1) ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 7 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์ โดยไม่คิดมูลค่า ราคาใช้สิทธิ 1 บาท/หุ้น สามารถใช้สิทธิได้ 1 ครั้ง มีอายุ 1 ปี กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะได้รับการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record Date) ในวันที่ 25 มกราคม 2567 โดยวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนในครั้งนี้เพื่อนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน รองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต

ปัจจุบัน TGE มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งหมด 76.6 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจาก ชีวมวล กำลังการผลิตติดตั้งรวม 29.7 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โครงการ ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ใน อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี และธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากขยะชุมชน กำลังการผลิตติดตั้งรวม 39.9 เมกะวัตต์ จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว ชุมพร ราชบุรี ชัยนาท และสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ปลายปี 2568 และธุรกิจรับบริหารจัดการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ กำลังการผลิตติดตั้งรวม อีกจำนวน 7 เมกะวัตต์ ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันทีในเดือนนี้

นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมเข้าประมูลโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันเป้าหมายการเติบโตในอนาคตอย่างก้าวกระโดดสู่กำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ รวมทั้งเพิ่มเติมโครงการพลังงานสะอาดอื่นๆ อีก 100 เมกะวัตต์ รวมเป็น 200 เมกะวัตต์ ตามแผนงานที่บริษัทฯได้วางไว้