นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ.ทิสโก้) เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ได้คัดเลือกกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 8 กองทุน เพื่อเป็นทางเลือกลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการบริหารจัดการภาษีช่วงปลายปีในปีนี้ ได้แก่
- กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้สหรัฐ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TUSBOND-SSF) ความเสี่ยงระดับ 4 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JPMorgan Funds - US Aggregate Bond ชนิดหน่วยลงทุน C (acc) – USD ที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้
- กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TSF-SSF) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี ที่ผ่านการคัดสรรจากผู้จัดการกองทุน โดยใช้นโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก
- กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล เฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TGHRMF-A) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมและ/หรือ ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม Healthcare ทั่วโลก
- กองทุนเปิด ทิสโก้ เทคโนโลยี อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TTECHRMF-A) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares Expanded Tech Sector ETF ที่ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม Technology
พิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ลงทุนในกองทุน SSF RMF ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 ยอดเงินลงทุนสะสมทุก ๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A (TSF-A) มูลค่า 100 บาท สูงสุด 1,000 บาท
สำหรับผู้ที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน SSF/RMF/LTF จากบริษัทจัดการอื่นมายังบลจ.ทิสโก้ ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 ยอดเงินสับเปลี่ยนเข้ากองทุน SSF RMF LTF สะสมทุก ๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุน TSF-A มูลค่า 100 บาท สูงสุด 20,000 บาท