หุ้นไทยวันนี้ (21 ก.ย.66) ดัชนี SET รับปัจจัยกดดันให้ปรับลงได้ต่อ หลังผลประชุมเฟดล่าสุด คงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ และคงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้บอนด์ยีลยุโรปปรับตัวขึ้นและเงินบาทอ่อนค่าลง คาดวันนี้เงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลออกต่อ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ ทำให้ตลาดปรับคาดการณ์ใหม่โดยให้น้ำหนักมากขึ้นว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ระบุว่าดอกเบี้ยจะลงช้ากว่าที่ตลาดหรือเฟดประเมินไว้ครั้งก่อน ซึ่งคาดว่าจะปรับลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่ ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงลงช้า
ทั้งนี้อัตราการปรับลดของดอกเบี้ย จากเดิมที่จะลดเป็นเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ลดเพียงแค่ 0.5% สะท้อนว่าเฟดยังคงพยายามเลี้ยงดอกเบี้ยในระดับที่ค่อนข้างสูง และสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในยุโรปปรับตัวขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าลง คาดว่าในวันนี้เงินลงทุนจากต่างชาติไหลออกต่อ
ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อหลังจากนี้คือการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ สู่ระดับ 5.5% และการการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จับตาทิศทางการส่งสัญญาณปรับนโยบายการเงินในอนาคต ซึ่งหากส่งสัญญาณที่จะเข้มงวดนโยบายการเงินในอนาคต อาจจะทำให้บอนด์ยีลและสภาพคล่องโลกอาจจะลดลงได้
บล.ทิสโก้ ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,495 - 1,505 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด
บาทอ่อนค่าสุดรอบ 11 เดือน แตะ 36.32 บาท
ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ปัจจัยที่ยังน่ากังวล ได้แก่เรื่องค่าเงินบาท หลังทะลุแนวอ่อนค่ามากสุดในรอบเกือบ 11 เดือนแตะ 36.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และเช้านี้ ( 21 ก.ย.66 ) อ่อนค่าต่อเนื่องมาที่ 36.28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้ Fund Flow ไหลออกต่อ โดยดัชนี SET ปรับตัวลดลงเข้าใกล้ 1500 จุด แต่เชื่อว่าน่าจะสามารถรักษาฐาน บริเวณดังกล่าวไว้ได้ แนวรับบริเวณ 1495-1500 จุด ส่วนแนวต้าน 1515 จุด หุ้นTop Pick วันนี้เลือก CPN, CRC และTU
อย่างไรก็ดี กรณีเงินบาทหยุดอ่อนค่าและเริ่มกลับมาแข็งค่ามากกว่า 35.70-35.90 บาท ดัชนี SET มีโอกาสฟื้น 40 จุด
กลยุทธ์ลงทุน มอง SET ขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน โดยในประเทศรอติดตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ขณะที่ต่างประเทศอยู่ระหว่างจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญอาทิ BoE (21 ก.ย.) และ BoJ (22 ก.ย.) โดย BoE และ BoJ จะยังดำเนินการใช้นโยบายการเงินตึงตัวต่อไป กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย อ่อนตัวแนวรับ 1,500-1,490 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้าน หลัง FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 5.25-5.50% ตามคาด, แต่ Dot Plot ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ 5.50%-5.75% ภายในสิ้นปีนี้จากภาวะเงินเฟ้อระดับสูง
ทั้งนี้ FED คาดว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายที่ 2% ในปี 2569 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ (USD) และอัตราผลตอบแทนพันธบะตรสหรัฐ (US bond yield) ปรับตัวขึ้นซึ่งเป็นลบต่อเม็ดเงิน (Fund flow) และภาวะการลงทุน