"พาวเวลล์" ส่งสัญญาณ"ขึ้น-คง"ดอกเบี้ยระดับสูง ในการประชุมเฟดครั้งต่อไป

26 ส.ค. 2566 | 05:58 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2566 | 06:14 น.
614

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า เงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป และเฟดก็พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ถ้อยแถลงของเขาที่แจ็กสัน โฮล เป็นอันปิดความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในปีนี้

 

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมือง แจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันศุกร์ (25 ส.ค.) ว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง โดยเฟดจะประเมินข้อมูลที่ได้รับ รวมทั้งแนวโน้มและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเขายอมรับว่า ขณะนี้ เงินเฟ้อ ยังคงอยู่สูงเกินไป และเฟดเตรียมการที่จะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

"แม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงจากระดับสูงสุด ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดี แต่ก็ยังคงอยู่สูงเกินไป เราพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากมีความเหมาะสม และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จนกว่าเรามีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายที่เรากำหนดไว้"

ทั้งนี้ ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดกำลังพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด โดยเขาระบุแต่เพียงว่า ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน เฟดจะตัดสินใจอย่างระมัดระวังว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหรือไม่ หรือจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ขณะที่ต้องรอพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจในขณะนั้นประกอบด้วย

นายพาวเวลล์ ยังกล่าวเสริมด้วยว่า แม้เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคง “เร็วเกินไป” ที่จะประกาศชัยชนะในตอนนี้

นอกจากนี้ เขายังยอมรับว่า การดำเนินการของเฟดมีความเสี่ยง 2 ด้าน คือดำเนินการมากเกินไปและน้อยเกินไป

"การดำเนินการน้อยเกินไปจะทำให้เงินเฟ้อที่อยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดฝังตัวลึก และจะยิ่งทำให้เฟดต้องใช้นโยบายการเงินเพื่อขจัดเงินเฟ้อออกจากเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน"

"ส่วนการดำเนินการที่มากเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจเกิดผลกระทบโดยไม่จำเป็น" นายพาวเวลล์กล่าว

ปฏิกริยาของนักลงทุน

หลังถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 47.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมวันที่ 1 พ.ย. 2566 และให้น้ำหนักเพียง 43.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%

นอกจากนี้ นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนัก 9.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.75-6.00% ในการประชุมเดือนพ.ย.

ส่วนในการประชุมเดือนก.ย. นี้ นักลงทุนยังคงคาดว่าเฟดจะ “คงอัตราดอกเบี้ย” ที่ระดับ 5.25-5.50%

สำหรับ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดในรอบต่อไปของปีนี้ ยังมีอีก 3 ครั้ง ดังนี้

  • วันที่ 19- 20 ก.ย. 2566
  • วันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. 2566
  • วันที่ 12-13 ธ.ค. 2566

ส่วนการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 ตั้งแต่ต้นปีมา มีการขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง และคงดอกเบี้ย 1 ครั้ง ดังนี้

  • วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.50-4.75%
  • วันที่ 21-22 มี.ค.      ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.75-5.00%
  • วันที่ 2-3 พ.ค.         ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25%
  • วันที่ 13-14 มิ.ย.      คงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
  • วันที่ 25- 26 ก.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50%