หุ้น เป็นตราสารทางการเงินประเภทหนึ่ง ซึ่งออกแบบมาเพื่อการลงทุนในระยะยาว ให้สิทธิในความเป็นเจ้าของกิจการแก่ผู้ที่เข้าไปลงทุน ซึ่งอาจได้รับส่วนแบ่งกำไรในรูปแบบของ #เงินปันผล (Dividend) และ #ส่วนต่างราคา จากการซื้อขายในตลาดรอง (Capital Gain)
ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการลงทุนในหุ้น แนะนำให้ติดตาม 5 เรื่องสำคัญ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดข้อมูลสำหรับนำมาประกอบการตัดสินใจ โดยข้อมูลที่แนะนำให้ติดตามนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1.ศึกษาทำความรู้จักบริษัทที่จะลงทุน
ข้อมูลพื้นฐานและลักษณะธุรกิจของบริษัท สามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวน (กรณี IPO)และรายงาน "56-1 One Report" (กรณีบริษัทจดทะเบียน) ที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการซึ่งประกอบด้วยข้อมูลหลัก 3 ส่วน ได้แก่
ช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างและการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทการบริหารจัดการความเสี่ยง วัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลอดจนข้อมูล MD&A
ช่วยให้เราเห็นโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ คณะกรรมการผู้บริหาร การควบคุมภายใน และรายงานผลการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่สำคัญ ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร
ซึ่งแสดงถึงข้อมูลฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท ตลอดจนความเห็นของผู้สอบบัญชีที่มีต่องบการเงินดังกล่าว
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยง โอกาสเติบโต และสะท้อนฐานะทางการเงินของกิจการ ช่วยให้เราตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
2 ติดตามงบการเงินและอ่านความเห็นของผู้สอบบัญชี
บริษัทมีหน้าที่ส่งงบการเงินทุกไตรมาส (งบสอบทาน) และงบการเงินรายปี (งบตรวจสอบ) โดยผู้สอบบัญชีจะแสดงความเห็นต่องบการเงินใน 4 ลักษณะ คือ
ซึ่งความเห็นของผู้สอบบัญชี จะช่วยให้เราทราบถึงความถูกต้องและน่าเชื่อถือของงบการเงิน หรือข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น
3.ติดตามข้อมูลที่เป็นปัจจุบันจากตลาดหลักทรัพย์
การติดตามข้อมูลซึ่งเผยแพร่โดย "ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย"จะช่วยให้เราทราบถึง
ซึ่งจะทำให้เราสามารถวางแผนรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทได้อย่างทันท่วงที
4.ติดตามการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญของราคา
เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท ย่อมส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท ทั้งในเชิงพื้นฐานและเชิงจิตวิทยา ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรติดตามมุมมองสถานการณ์ด้านราคาจากบทวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยนักวิเคราะห์ ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.ทั้งในด้านปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นผู้ให้มุมมองอย่างมีมาตรฐานในระดับวิชาชีพ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
5.เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวที่สำคัญของบริษัทที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจซึ่งต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น
เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น