ศาลแพ่งนัดไต่สวนคำร้อง 4 ก.ย. 66 เอาผิด "วนรัชต์" และพวกปมหุ้นกู้ STARK

04 ส.ค. 2566 | 06:00 น.
756

ศาลแพ่งนัดไต่สวนคำร้อง ของกลุ่มผู้เสียหายจาก หุ้นกู้ STARK วันที่ 4 ก.ย. 66 เอาผิด "วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ" และพวกอีก 5 ราย ปมหุ้นกู้ STARK หลังมีผู้เสียหายประมาณ 4,500 คน ความเสียหายกว่า 9,200 ล้านบาท

กลุ่มผู้เสียหายจาก หุ้นกู้ STARK ได้ยื่นฟ้องที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการและผู้บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "STARK" และพวกรวม 5 คน

ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการกล่าวโทษไว้ก่อนหน้านี้ ในความผิดฐาน ชี้ชวนซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่เป็นความจริง ปกปิดข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญ

ด้านนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความ ระบุว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้เป็นการฟ้องคนที่มีส่วนที่จะต้องร่วมรับผิด ตาม ที่ ก.ล.ต. ได้มีการกล่าวโทษไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรรมการและผู้บริหาร เนื่องจากข้อมูลที่ผู้ถือหุ้นกู้ได้รับเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่ปรากฏในหนังสือชี้ชวน

โดยเฉพาะงบการเงิน ทำให้คนที่ตัดสินใจในการลงทุน หลงเชื่อ ว่ามีผล ประกอบการที่ดี ซึ่งกรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายประมาณ 4,500 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 9,200 ล้านบาท

สำหรับผู้เสียหายประมาณ 200 คน ที่ยื่นฟ้อง กรรมการ และผู้บริหารบริษัทดังกล่าว เป็นการฟ้องแบบกลุ่ม เพื่อประโยชน์กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกคน เบื้องต้นศาลนัดไต่สวนคำร้องการดำเนินคดีแบบกลุ่มในวันที่ 4 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น.

ด้านกลุ่มผู้เสียหาย ยืนยันว่า หลังเกิดเรื่องทางบริษัท ไม่เคยติดต่อมาพูดคุยหรือเยียวยาแต่อย่างใด ทั้งที่ การลงทุนครั้งนี้มีการซื้อหุ้นกู้ โดยถูกกฎหมาย มี ก.ล.ต. รับรอง

ทำให้ผู้เสียหายหลายคนมีความเดือนร้อนมากในตอนนี้ เพราะกับบางคนถือเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้าย และอายุมากคงไม่สามารถหามาได้อีก

ดังนั้นทางตัวแทนกลุ่มจึงมาร้องต่อศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ เพื่อเอาผิดต่อกรรมการ และผู้บริหารบริษัทดังกล่าว ให้ชดใช้ค่าเสียหาย จ่ายเงินลงทุนคืน ให้กับเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นกู้ทุกคน

พร้อมกันนี้ยังขอเรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงาน ก.ล.ต., ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจสอบสวนกลาง ให้ช่วยกันตรวจสอบ และเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดกลับมาดำเนินคดีในไทย