กรุงไทย หวั่น การเมืองในประเทศกระทบท่องเที่ยว

14 ก.ค. 2566 | 16:17 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.ค. 2566 | 16:18 น.

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ชี้ ภาคท่องเที่ยวเครื่องจักรเดียวประคองเศรษฐกิจ คาดเศรษฐกิจไทยปี 66 ยังเติบโตได้ 3.4% แต่จับตาสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่อาจกระทบการเดินทาง ด้านส่งออกยังชะลอตัวต่อเนื่อง

Krungthai COMPASS เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะเติบโตได้ 3.4% ด้วยการขับเคลื่อนของภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 10.7 ล้านคน เติบโตดีกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม ซึ่งตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2566 มีโอกาสที่จะแตะระดับ 29.0 ล้านคน สูงกว่า 27.1 ล้านคนที่เคยคาด ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังมีทิศทางเพิ่มขึ้น

ด้านการส่งออกไทยยังเผชิญความไม่แน่นอนสูง หลังมูลค่าการส่งออกล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2566 หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 โดยติดลบที่ 4.6%YoY หากมองต่อไปในในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอลงชัดเจน โดยภาคการผลิตของกลุ่มเศรษฐกิจหลักหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอลงของภาคบริการในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ประกอบกับการฟื้นตัวของจีนแผ่วลงกว่าที่เคยคาด

กรุงไทย หวั่น การเมืองในประเทศกระทบท่องเที่ยว

นอกจากนั้น ธนาคารกลางหลักฝั่งตะวันตกต่างมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกและถือเป็นความเสี่ยงต่อการส่งออกไทยต่อไป ทั้งนี้คาดว่า มูลค่าการส่งออกทั้งปี 2566 จะหดตัว 1.6% เทียบจากปีก่อนที่สามารถขยายตัวได้ 5.5% อย่างไรก็ตาม แรงส่งของภาคการท่องเที่ยวรวมทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเป็นปกติมากขึ้น จะหนุนการจ้างงาน และอุปสงค์ภายในประเทศให้สามารถประคับประคองการฟื้นตัวได้ต่อไปในช่วงที่เหลือของปี 2566

ทั้งนี้ Krungthai COMPASS มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงท่ามกลางความเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะปัจจัยด้านลบที่รุมเร้ามากขึ้น จากการค้าโลกที่อาจชะลอตัวกว่าคาดและมีโอกาสที่เขตเศรษฐกิจหลักบางส่วนจะประสบภาวะหดตัวในปลายปีนี้ รวมถึงภาวะการเงินยังตึงตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง

ขณะที่ปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยอาจส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะในส่วนของงบลงทุนภาครัฐให้ล่าช้า ประกอบกับสถานการณ์ดังกล่าวอาจกระทบต่อบรรยากาศด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเพียงเครื่องยนต์หลักตัวเดียวของเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ และจำเป็นต้องติดตามพัฒนาการของปัจจัยดังกล่าวและประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป ภาคธุรกิจจำเป็นต้องวางแผนรองรับเหตุการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงอีกด้วย