บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด, บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด, บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด และ บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด ลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 4 ความร่วมมือ
ประกอบด้วย ความร่วมมือระหว่าง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และ บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนหรือ Investment Token รวมถึงอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ของนักลงทุนและการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจระหว่างบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัดและบริษัทบริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ความร่วมมือระหว่าง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และ บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด เพื่อพิจารณาโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ความร่วมมือระหว่างบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และ บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด เพื่อโอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ และโอกาสในการนำโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเรียลเอ็กซ์หรือเหรียญ RealX มาให้บริการซื้อขายแก่นักลงทุนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub ซึ่งจะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในการพิจารณาคัดเลือกต่อไป
นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความร่วมมือเพื่อพิจารณาโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจอื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือถึงความเป็นไปได้ร่วมกัน เช่น เปิดช่องทางในการแนะนำให้ลูกค้าพิจารณาลงทุนเหรียญ RealX ในตลาดแรก หากมีโอกาสนำเหรียญ RealX มาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub ซึ่งเป็นตลาดรอง
และความร่วมมือระหว่างบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และ บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด เพื่อการพิจารณาโอกาสทางธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรมโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนหรือ Investment Token และ โอกาสทางธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะคนในวงการอสังหาริมทรัพย์ มองเห็นโอกาสของการทำ Real Estate-Backed Token หรือ Condo-Backed Token ของ RealX ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็น Luxury Condominium ที่มีโอกาสในการเข้าถึงยาก มีคนเพียง 5-10% ในประเทศไทยที่สามารถถือครองได้ แต่เมื่อเรานำ Luxury Condominium มาตั้งเป็นกองทุนและเอา Tokenization ผ่านระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (Dezentralized Finance) ก็จะเกิดหน่วยลงทุนเล็ก ๆ ขนาด 1 ตารางนิ้ว ในราคา 182 บาท ซึ่งเปิดโอกาสให้คนตัวเล็ก ๆ และคนที่มีวิสัยทัศน์ในการลงทุนสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ใหญ่ ๆ ได้ โดยเฉพาะสินทรัพย์ใจกลางเมือง ที่มีโอกาสเข้าถึงยาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการร่วมมือกัน คือ ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เคยมีในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้ถูกแก้ไขด้วยระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (Dezentralized Finance) นอกจากนี้ สภาพคล่องในการซื้อ-ขายสินทรัพย์ที่แต่เดิมมีปัญหาอย่างมากและมีค่าธรรมเนียมในการขายค่อนข้างสูง ประมาณ 5.3% หากทำ Tokenization จะทำการซื้อขายได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง และไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอนอีกต่อไป อีกทั้ง ลูกค้าของบิทคับมีจำนวนมากและมีความสนใจในเรื่องการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่แล้ว จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่นักลงทุนจะหันมาให้ความสนใจกับ RealX และ Token X”
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด กล่าวว่า “ตอนนี้เราอยู่ระหว่างโลกสองใบ คือ โลกยุคเดิมและโลกที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ถ้าเราอยากอยู่โลกยุคใหม่ เราต้องก้าวผ่านให้ได้ จึงเกิดเป็นความร่วมมือระหว่าง Bitkub RealX และ Token X ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ บนโลกผ่านการ Tokenization ซึ่งจะเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด (Expotential Curve) และสร้างรายได้ให้กับคนไทยอย่างมหาศาล ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้ร่วมกันพัฒนาโปรเจกต์นี้อย่างรัดกุมเพื่อหวังว่าจะสร้างหมุดหมายใหม่ให้กับประเทศไทยได้”
นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “Token X มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ RealX และ Bitkub ในครั้งนี้ ตลอดจนความร่วมมือจากผู้สนับสนุนอย่าง Origin พวกเรามีความตั้งใจเป็นอย่างมากในการร่วมมือกันเพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ สิ่งที่ Token X, RealX และ Bitkub ทำร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็น Real Used Case ที่สำคัญสำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและจะสร้างประโยชน์อย่างมากให้กับทุกคน เรามองว่าประเทศไทยมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านเทคโนโลยี ผู้ให้บริการ ผู้กำหนดนโยบาย และข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ชัดเจน
สำหรับสิ่งที่ TokenX จะทำในวันนี้ คือ Condominium-Backed Token โดยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Tokenization มาผนวกเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการลงทุนคอนโดมิเนียมแบบ Fractionalization ทำให้เข้าถึงได้สำหรับนักลงทุนและคนทุกระดับ”
ด้านจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ทั้ง 4 บริษัท เป็นบริษัทชั้นนำที่มาร่วมมือกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย ไอเดียเรื่อง Investment token เกิดขึ้นมาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วและในวันนี้ก็เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ถ้าย้อนกลับไปประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่ออก Digital Assest Exchange License และมีกฏหมายที่ชัดเจนมากในการแบ่งประเภทของ Token แต่ละชนิด อาทิ Cryptocurrency, Utility Token และ Investment Token เป็นต้น ในขณะที่บางประเทศยังไม่มีการแบ่งที่ชัดเจน
ซึ่งในตอนนี้ผมคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ในการทำ Real Estate-Backed Token ในประเทศไทยเพื่อมาปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีเทรนด์การนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาสร้างประโยชน์ให้กับสถาบันการเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ยื่นขอเปิด Bitcoin ETF หรือ การที่ Deutsche Bank ยื่นขอสิทธิในการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล (Custody Solution)
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก มีการคาดการณ์ว่าในปี 2024 อาเซียนจะเข้าสู่ยุคทองคำ เม็ดเงินจะไหลเข้าสู่อาเซียนอย่างมหาศาล ประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ซึ่ง Investment Token ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย เราจะมุ่งมั่นทำโปรเจกต์นี้ให้ประสบความสำเร็จ และเราจะเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้กับคนไทยต่อไป”