รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนทุกฝ่ายพร้อมเผชิญ “มหันตภัยทางการเงิน”  

08 พ.ค. 2566 | 09:13 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ค. 2566 | 09:21 น.
3.3 k

"เยลเลน" เตือนอีกครั้ง ให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรับ “มหันตภัยทางเศรษฐกิจและการเงิน” ที่ไม่จำกัดวงเฉพาะในสหรัฐ หากปธน.ไบเดน และคองเกรส ไม่ไฟเขียวการเพิ่มเพดานหนี้

 

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์ ABC เมื่อวันอาทิตย์ (7 พ.ค.) เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า ต้นเดือนมิถุนายนนี้ คือ ช่วงที่รัฐบาลสหรัฐจะไม่มีเงินสดเหลืออีกต่อไป แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีความไม่แน่นอนอยู่อีกมากเกี่ยวกับวันที่ที่เงินในคลังจะหมดลง และนั่นหมายถึง มหันตภัยทางเศรษฐกิจและการเงิน ทั้งในสหรัฐและในระดับโลก กำลังจะตามมา 

นางเยลเลนในฐานะรัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกระทรวงการคลังได้ดำเนิน “มาตรการขั้นพิเศษ” เพื่อให้รัฐบาลมีเงินชำระหนี้ต่อไป แม้หลังรัฐบาลแตะเพดานการกู้ยืมของประเทศที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ไปตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมแล้ว แต่ก็ย้ำว่าความสามารถของสหรัฐในการทำเช่นนั้น กำลังจะหมดแรงลงเรื่อย ๆ  และเงินสดของสหรัฐก็จะเริ่มพร่องลงไปด้วย

“และในที่สุด วันที่เราไม่สามารถชำระหนี้ก็จะมาถึง” นางเยนเลนกล่าว

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ

ในวันอังคารนี้ (9 พ.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเชิญผู้นำในสภาคองเกรสมายังทำเนียบขาวเพื่อหารือหนทางที่จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐเลี่ยงวิกฤตที่จ่อรอปะทุครั้งนี้

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปธน.ไบเดน ได้พยายามเรียกร้องต่อสภาคองเกรส ซึ่งมีพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากแบบปริ่มน้ำในสภาล่าง ให้ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศสหรัฐโดยไม่มีเงื่อนไขมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาล่าง ก็ยอมลงมติปรับเพิ่มเพดานหนี้เป็นเวลา 1 ปีเท่านั้น พร้อมยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลต้องปรับลดค่าใช้จ่ายด้านสังคมและการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเงื่อนไขพ่วงที่กล่าวมานี้ ทั้งปธน.ไบเดนและสมาชิกพรรคเดโมแครตต่างก็คัดค้าน

ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐไม่เคยผิดนัดชำระหนี้เลยแม้สักครั้งเดียว แต่รมต.เยลเลน เตือนว่า หากรัฐบาลเงินหมด การจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลที่ชาวอเมริกันและรัฐบาลต่างชาติถือครองอยู่ก็จะสะดุดขัด ขณะที่ การจ่ายเงินประกันสังคมให้กับชาวอเมริกันผู้สูงอายุและค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่เกี่ยวข้องก็จะล่าช้าออกไป และธุรกิจต่าง ๆ อาจต้องปลดพนักงานนับพันหรือนับหมื่นคน

 “ตลาดหุ้นก็อาจจะร่วงหนักได้ด้วย” เยนเลนกล่าวเตือน

สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า ในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน เคยมีการปรับขึ้นเพดานหนี้ของประเทศรวมกันแล้วถึง 78 ครั้ง

นักวิเคราะห์ในกรุงวอชิงตันบางรายเชื่อว่า ในเร็ว ๆ นี้ ปธน.ไบเดน และพรรครีพับลิกันน่าจะบรรลุข้อตกลงระหว่างกันได้ เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายสามารถอ้างได้ว่าต่างก็มีชัยชนะในการเจรจาต่อรองกันได้ โดยเพดานหนี้ก็จะถูกปรับขึ้น และปธน.ไบเดนก็อาจยอมตกลงที่จะลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลลงบางส่วนในปีงบประมาณหน้าที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 นี้