ThaiBMA ชี้ปัญหา STARK กระทบจิตวิทยาตลาด มองเป็นเรื่องเฉพาะราย

25 เม.ย. 2566 | 01:04 น.

ThaiBMA ระบุปัญหาที่เกิดขึ้นของ STARK กระทบจิตวิทยาตลาด มองเป็นเรื่องเฉพาะราย เชื่อนักลงทุนสามารถแยกแยะได้ ด้าน TRIS Rating มีโอกาสปรับลดอันดับเครดิตในระยะข้างหน้าลงสู่ระดับ C-D

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า กรณีปัญหาของทาง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) STARK ทำให้อาจจะมีผลกระทบทางด้านจิตวิทยาต่อตลาด

แต่เชื่อว่านักลงทุน สามารถแยกแยะปัญหาออกได้ว่าเกิดขึ้น และเป็นเรื่องเฉพาะราย ขณะที่ในภาพรวมยังไม่ได้มีปัญหาอะไรที่น่ากังวล

ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นกู้จะมีการจัดประชุมในวันที่ 28 เมษายน 2566 เพื่อพิจารณาการยกเว้นเหตุผิดนัดจากการส่งงบการเงินล่าช้า 

โดยมีวาระสำคัญ 2 วาระ ประกอบด้วย 

  • การยกเว้นเหตุผิดนัดอันเกิดจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ส่งงบการเงินประจำปี 2565 ล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนด
  • การเรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน

หากการโหวตวาระ 1 ไม่ผ่าน จะไปพิจารณาวาระ 2 ซึ่งหากโหวตผ่าน ถือเป็นหุ้นกู้ผิดนัดชำระตามกฎหมาย และสามารถเรียกให้ชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมด โดยไม่ต้องรอครบกำหนด

แต่การเรียกชำระคืนหนี้หลังจากนั้น ยังจะมีกระบวนการเจรจาตกลงกันได้

ด้าน "ทริสเรทติ้ง" ปรับลดอันดับเครดิตองค์กร ของ STARK ลงสู่ระดับ "BB-" จาก "BBB+" และคง "เครดิตพินิจ" แนวโน้ม "Negative" หรือ "ลบ" เช่นเดิม

โดยทริสเรทติ้ง ให้เหตุผลการปรับลดอันดับเครดิตในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการประกาศของบริษัทเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 ว่า บริษัทขอเลื่อนการนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 เป็นครั้งที่ 3 โดยคาดว่าจะจัดส่งได้ภายในเดือนมิถุนายน 2566

นอกจากนี้บริษัทยังได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัททั้งชุดและผู้บริหารที่สำคัญ รวมไปถึงการแต่งตั้ง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ ระบุว่า การประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ STARK ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ โดยหากมีมติไม่ยกเว้น บริษัทมีสิทธิถูกเรียกชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดราว 9,200 ล้านบาท ทันที

ในกรณีเช่นนี้จะทำให้ทาง ทริสเรทติ้ง มีโอกาสปรับลดอันดับเครดิตของ STARK ลงสู่ระดับ C หรือ D ทันที หลังจากที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำการปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทลงมาแล้วก่อนหน้านี้

หุ้นกู้ STARK  มีทั้งหมด 5 รุ่น ที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอน มูลค่า 9,198.4 ล้านบาท ประกอบด้วย

ชุดที่ 1 STARK239A  มูลค่า 1,291.5 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 2 ก.ย.2566 

ชุดที่ 2 STARK249A  มูลค่า 949.5 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.9% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 2 ก.ย.2567

ชุดที่ 3 STARK245A มูลค่า 1,701.1 ล้านบาท อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.8% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 12 พ.ค.2567

ชุดที่ 4 STARK255A มูลค่า 1,322 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.0% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 12 พ.ค.2568 

ชุดที่ 5 STARK242A มูลค่า 3,934.3 ล้านบาท อายุ 1.25 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.0% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 17 ก.พ. 2567