โอนเงิน 5 หมื่นบาทต้องยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เช็คเลยมีแบงก์ไหนบ้าง

23 เม.ย. 2566 | 15:42 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ค. 2566 | 20:10 น.
39.5 k

รู้ยัง!โอนเงิน 5 หมื่นบาทขึ้นไป - ปรับวงเงิน ต้องยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เช็คเลยมีแบงก์ไหนบ้าง ขั้นตอนการสแกนต้องทำอย่างไร

หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย มีมาตรการให้ธนาคารทุกแห่งยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่างๆบนแอปพลิเคชัน -โมบายแบงก์กิ้ง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ ซึ่งแต่ละธนาคารในตอนนี้ เริ่มประกาศแจ้งลูกค้าเจ้าของบัญชีให้ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า หากจะทำธุรกรรมด้วยการโอนเงินตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป หรือ ในกรณีที่ต้องการปรับวงเงิน โดยความคืบหน้าในตอนนี้จะมีธนาคารไหน แบงก์ใดบ้างนั้น "ฐานเศรษฐกิจ"รวบรวมข้อมูลมานำเสนอดังต่อไปนี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ 
ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรมดังต่อไปนี้ผ่านแอป SCB EASY 


1. โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง
2. มูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุก ๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน
3. ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป


กรุณานำบัตรประชาชนไปอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและถ่ายรูปใบหน้าได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  และลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนด้วยตนเองบนแอป SCB EASY ก่อนไปสาขาธนาคาร ได้ตามขั้นตอนดังนี้


1.กด"เมนูอื่นๆ"
2.กด"การตั้งค่า"
3.กด "จัดการบริการ NDID"
4.1 หากพบข้อความ "นำบัตรประชาชนไปติดตาอธนาคารไทยพาณิชย์สาขาที่สะดวก" ลูกค้าต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา
4.2 หากไม่พบข้อความดังข้อ 4.1 ลูกค้าไม่ต้องยืนยันตัวตนที่สาขาเนื่องจากธนาคารมีใบหน้าของลูกค้าในระบบแล้ว

ธนาคารไทยพาณิชย์ SCB แจ้งลูกค้ายืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า
 

ธนาคารออมสิน 
ธนาคารออมสิน แจ้งว่า เพื่อยกระดับความปลอดภัย เดือนพฤษภาคมนี้ หากต้องการโอนเงินมากกว่า 50,000 บาท หรือเปลี่ยนแปลงวงเงิน จะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยการเปรียบเทียบใบหน้าก่อน โดยสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขา และอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ถ่ายภาพสแกนใบหน้าที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ

ยินยันตัวตนธนาคารออมสิน ด้วยการสแกนใบหน้า

ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ แจ้งว่า เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยในระบบโมบายแบงก์กิ้ง ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า โดยนำบัตรประชาชนไปอัพเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และถ่ายรูปใบหน้าที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ  ทั้งนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่พฤษภาคม 2566 ในธุรกรรมต่อไปนี้

 

  • รายการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นผ่านเลขที่บัญชี/พร้อมเพย์/สแกนคิวอาร์ หรือ เติมเงินพร้อมเพย์/G-Wallet ที่เข้าเงื่อนไขดังนี้
  • รายการที่มียอดเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
  • รายการที่ทำให้ยอดสะสมต่อวัน ครบทุก 200,000 บาท
  • การปรับเพิ่มวงเงินโอน / จ่ายเงิน ผ่านแอป
     

ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า ธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผู้ใช้งานเตรียมพร้อมยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมผ่าน K PLUS โดยจะเริ่ม พฤษภาคม 2566

  • โอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ
  • ยอดรวมของการโอนเงินทุก 200,000 บาทต่อวัน
  • ปรับเพิ่มวงเงินทำรายการต่อวันผ่าน K PLUS

 อนึ่งธนาคารกสิกรไทยได้เก็บใบหน้าของลูกค้าจากการเปิดบัญชี หรือทำธุรกรรมกับธนาคารอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าส่วนใหญ่สามารถทำธุรกรรมผ่าน K PLUS ได้ทันที โดยไม่ต้องลงทะเบียนใบหน้าใหม่


เฉพาะลูกค้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้เท่านั้น ต้องลงทะเบียนใบหน้าใหม่ โดยนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ตู้ ATM ธนาคารกสิกรไทย หรือติดต่อสาขาที่ท่านสะดวก

ธนาคารกสิกรไทย แจ้งลูกค้าผู้ใช้งานให้เตรียมพร้อมในการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า

ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย แจ้งว่าได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัย ยกระดับการใช้งานแอปฯ NEXT และ เป๋าตัง สู่การสแกนใบหน้าที่ปลอมแปลงได้ยากกว่า OTP เพื่อยืนยันตัวตนก่อน โอน เติม จ่าย ทั้งนี้ขอให้ประชาชนนำบัตรประชาชนไปบันทึกข้อมูลยืนยันตัวตนและถ่ายภาพใบหน้า ได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือตู้ ATM กรุงไทย สีเทา 


สำหรับการอัพเดตข้อมูลบัตรประชาชนและการสแกนใบหน้า มีข้อดี ดังนี้

  • ปลอดภัยเพื่อให้คุณทำได้คนเดียวเท่านั้น เมื่อ
  • โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป/ครั้ง
  • มูลค่ารวมของการโอนเงินทุกๆ 200,000 บาท/วัน
  • ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
  • สะดวก เมื่อต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์มือถือ สามารถใช้งานแอปฯ ได้อย่างต่อเนื่อง

ธนาคารกรุงไทย แจ้งประชาชนเตรียมพร้อมสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน

 

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. แจ้งว่า เพื่อการทำธุรกรรมที่ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น ขอให้เจ้าของบัญชีลงทะเบียน  “e-KYC การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์” โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ BAAC ทุกสาขา และใช้หลักฐานในการลงทะเบียนได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนและสมาร์ตโฟน

 

สำหรับการลงทะเบียน e-KYC ด้วยอัตลักษณ์บุคคล เช่น การจดจำใบหน้า ช่วยระบุไอดีที่เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล ทำให้ปลอมแปลงหรือเลียนแบบได้ยาก ลดขั้นตอนการตรวจสอบบุคคล ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างดำเนินการ และควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลได้ ทั้งนี้ข้อดีของระบบดังกล่าวมีดังนี้ 

  • สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา ผู้มีสัญชาติไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป
  • เหมาะกับทุกคนที่ใช้ A-Mobile Plus
  • เป็นการทำธุรกรรมการเงินแบบ Smart ไร้สัมผัส
  • ทำธุรกรรมได้สะดวก รวดเร็วขึ้น
  • ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลทางการเงิน

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เตือนประชาชนยืนยันตัวตน

ธ.ก.ส.แจ้งลูกค้ายืนยันตัวตนด้วยใบหน้า

 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา แจ้งลูกค้า KMA krungsri app และ Krungsri Biz Online ที่ยังไม่เคยมีรูปถ่ายกับทางธนาคาร สามารถไปสแกนใบหน้าที่ธนาคาร โดยนำบัตรประชาชนไปติดต่อที่สาขาใกล้บ้าน  
 

ธนาคารกรุงศรี แจ้งลูกค้าสแกนใบหน้า

 

ธนาคารกรุงศรีฯแจงการสแกนใบหน้า

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) 
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ttb แจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการสแกนใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ttb touch ด้วยตนเองทุกครั้งในกรณที่ 
1.โอนเงินให้บุคคลอื่นหรือธนาคารอื่น ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ต่อครั้ง
2.โอนเงินให้บุคคลอื่นหรือธนาคารอื่น ตั้งแต่ 200,000 บาท ขึ้นไป ต่อวัน
3.ปรับเพิ่มวงเงิน

ทั้งนี้ลูกค้าทีทีบีส่วนใหญ่สามารถทำธุรกรรมดังกล่าวได้ตามปกติ โดยสามารถเช็กสถานะว่าต้องไปสแกนใบหน้าที่สาขาหรือไม่ ผ่านแอป ttb touch ตามขั้นตอนนี้

  • Log in แอป ttb touch
  • คลิกรูปจดหมายมุมขวาบนของจอ
  • เลือกกล่องข้อความเฉพาะคุณ
  • เลื่อนดูข้อความระหว่างวันที่ 29 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม 2566


กรณีที่ยังไม่เคยอัปเดตข้อมูลบัตรประชาชน และ/หรือสแกนใบหน้ากับธนาคาร สามารถนำบัตรประชาชนไปติดต่อทีทีบี ทุกสาขา ใกล้บ้านท่าน

ttb แจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการสแกนใบหน้า