ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง มีสิทธิ์ยื่นขอรับเงินบำเหน็จ หรือเงินบำนาญชราภาพจากประกันสังคมได้ โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือน (15ปี ) ขึ้นไป จะได้รับ “เงินบำนาญ” ที่ประกันสังคมจ่ายให้เป็นรายเดือนตลอดชีวิต ส่วนผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน จะได้รับ "เงินบำเหน็จ" รายละเอียดดังนี้
เงื่อนไข
กรณีบำเหน็จชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
กรณีบำนาญชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
รูปแบบการรับเงินเกษียณคืนจากกองทุนประกันสังคม
1.รับบำเหน็จชราภาพ
- ผู้จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เท่ากับจำนวนเงินสมทบเฉพาะส่วนของผู้ประกันตนที่จ่ายให้กับสำนักงานประกันสังคม
- หากจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เท่ากับจำนวนเงินสมทบส่วนของผู้ประกันตน รวมกับส่วนของนายจ้างที่จ่ายเงินสมทบให้และผลประโยชน์ตอบแทนประจำปี
2.รับบำนาญชราภาพ
- ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนตลอดชีวิต ในอัตราร้อยละ 20 ของเงินค่าจ้าง (คำนวณจากเพดานไม่เกิน 15,000 บาท) เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
- กรณีที่จ่ายเกินกว่า 180 เดือน จะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินบำนาญให้อีกร้อยละ 1.5 ของระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก ๆ 12 เดือน
ตัวอย่างการคำนวณ
กรณีที่จ่ายเงินสมทบเป็นเวลา 15 ปี ( 180 เดือน) อัตราบำนาญอยู่ที่ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ดังนั้น ได้รับเงินบำนาญเดือนละ 20% x 15,000 = 3,000 บาท
กรณีที่จ่ายเงินสมทบเป็นเวลา 20 ปี อัตราบำนาญจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ อัตราบำนาญ 15 ปีแรก เท่ากับ 20% และ 5 ปีหลัง เท่ากับ 1.5% x 5 = 7.5% รวมอัตราบำนาญ 20 ปี เท่ากับ 20% + 7.5% = 27.5% ดังนั้น เงินบำนาญรายเดือน จะอยู่ที่ 15,000 x 27.5% = 4,125 บาทต่อเดือน
กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิต
- กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพ เสียชีวิตภายใน 5 ปี หรือ 60 เดือน ทายาทผู้มีสิทธิ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเป็นจำนวนเท่ากับ จำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนถึงแก่ความตาย คูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือหลังจากผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายจนครบ 60 เดือน
เช่น กรณีที่ผู้ประกันตนได้รับบำนาญชราภาพเดือนละ 5,250 บาท และได้รับเงินบำนาญชราภาพมาแล้ว 20 เดือนก่อนถึงแก่ความตาย ทายาทจะได้รับเงินบำนาญชราภาพที่เหลืออีก 40 เดือน (5,250 X 40 = 210,000 ) เป็นต้น
- กรณีผู้ประกันตนถูกงดจ่ายเงินบำนาญชราภาพ เนื่องจากกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน และต่อมาถึงแก่ความตายหากบุคคลนั้นได้รับเงินบำนาญชราภาพมาแล้วไม่เกิน 60 เดือน
ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเป็นจำนวนเท่ากับเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน คูณด้วยจำนวนเดือนที่เหลือหลังจากผู้รับเงินบำนาญชราภาพกลับเข้าเป็นผู้ประกันตนจนครบ 60 เดือน
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบและทราบสิทธิที่จะได้รับแล้ว สามารถยื่นขอรับบำเหน็จชราภาพ หรือ บำนาญชราภาพ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด โดยใช้หลักฐานเอกสารประกอบการยื่นดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริง
- กรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน ฯ ( สปส. 2-01)
- แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ที่จะรับโอนเงิน
- สำหรับผู้ประกันตนที่มีบัญชีพร้อมเพย์ที่ใช้เลขบัตรประชาชนผูกกับบัญชีออมทรัพย์ สามารถแจ้งขอรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ไป พร้อมการยื่นคำร้องได้ โดยไม่ต้องใช้สำเนาสมุดบุญชีธนาคาร สำหรับบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์นั้นไม่สามารถใช้ได้
ช่องทางการตรวจสอบสิทธิและยอดเงินสมทบชราภาพ
กรณีไม่สะดวกเดินทางไปยังสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 3 ช่องทาง
- เว็บไซต์ของ สปส. www.sso.go.th
- แอปพลิเคชั่น SSO Connect สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง ระบบ iOSและ Android
- ไลน์ Line Official Account ของ สปส. @ssothai