หุ้นเครดิตสวิสทรุด 62%  ยูบีเอสร่วง 14% หลังการทำข้อตกลงซื้อกิจการ

20 มี.ค. 2566 | 18:16 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2566 | 19:11 น.

หุ้นเครดิตสวิส-ยูบีเอส กอดคอกันร่วง โดยหุ้นเครดิตสวิสทรุด 62% ยูบีเอสร่วง 14% หลังการทำข้อตกลงซื้อกิจการ ขณะแบงก์ชาติซาอุฯ หุ้นส่วนใหญ่ของ "เครดิตสวิส" ส่อขาดทุนเกินพันล้านดอลลาร์

 

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานวันนี้ (20 มี.ค.) ว่า หุ้นธนาคารเครดิตสวิส ปรับตัวลดลงถึง 62% ขณะที่ หุ้นธนาคารยูบีเอส (UBS) ปรับตัวลงเกือบ 14% หลังยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของ สวิตเซอร์แลนด์ ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับสองของประเทศ ในวงเงิน 3,000 ล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 แสนล้านบาท ) เมื่อวันอาทิตย์ (19 มี.ค.)

นายนีล เชียริง หัวหน้ากลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทแคปิตอล อีโคโนมิกส์ (Capital Economics) ระบุว่า การที่ยูบีเอสเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิตสวิสอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการยุติข้อสงสัยเกี่ยวกับความอยู่รอดของธุรกิจเครดิตสวิส แต่ปัญหาอยู่ที่รายละเอียดในการซื้อกิจการเครดิตสวิสของยูบีเอสว่าเป็นอย่างไร

หุ้นธนาคารเครดิตสวิส ปรับตัวลดลงถึง 62% หลังข่าวการซื้อกิจการ

"ปัญหาหนึ่งก็คือราคาซื้อกิจการที่ 3,000 ล้านฟรังก์สวิสนั้นเท่ากับประมาณ 4% ของมูลค่าตามบัญชีของเครดิตสวิส และประมาณ 10% ของมูลค่าตลาดของเครดิตสวิสเมื่อช่วงต้นปีนี้" นายเชียริงกล่าว พร้อมขยายความว่า กรณีดังกล่าวหมายความว่า สินทรัพย์จำนวนมากจากทั้งหมด 5.7 แสนล้านดอลลาร์ของเครดิตสวิสอาจ “ด้อยค่าลง” หรือถูกมองว่าเสี่ยงที่จะด้อยค่า ซึ่งอาจยิ่งกระพือความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเข้มแข็งของภาคธนาคารสวิตเซอร์แลนด์

"แบงก์ชาติซาอุฯ"ส่อขาดทุนเกินพันล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางซาอุดีอาระเบีย หรือ ซาอุดี เนชันแนล แบงก์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่กว่า 9% ของเครดิตสวิส ส่อแววขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ หลังธนาคารเครดิตสวิสล้มและธนาคารยูบีเอส ได้บรรลุข้อตกลงเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการเครดิตสวิสด้วยมูลค่าราว 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 1.1 แสนล้านบาท

ธนาคารกลางซาอุดีอาระเบีย หุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของเครดิตสวิส ยืนยันกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ทางธนาคารประสบภาวะสูญเสียเงินลงทุนประมาณ 80% ทั้งนี้ แบงก์ชาติซาอุฯ ถือหุ้นในเครดิตสวิสเกือบๆ 10% และลงทุน 1,400 ล้านฟรังก์สวิส (5.1 หมื่นล้านบาท) เมื่อเดือน พ.ย. ปี 2565 ในราคา 2.82 ฟรังก์สวิสต่อหุ้น

แต่ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงช่วยเหลือ ยูบีเอสเตรียมจ่ายเงินให้หุ้นส่วนของเครดิตสวิสเพียง 0.76 ฟรังก์สวิสต่อหุ้นเท่านั้น (อ่านเพิ่มเติม: “ยูบีเอส” ตกลงเทคโอเวอร์ “เครดิตสวิส” 3 พันล้านฟรังก์ )

การให้ความช่วยเหลือ "อย่างเร่งด่วน"

การเข้าเทคโอเวอร์กิจการธนาคารเครดิตสวิส โดยธนาคารยูบีเอสนั้น เกิดขึ้นภายใต้การดำเนินงานสนับสนุนระหว่างธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ที่ชื่อว่า "ฟินมา" (FINMA)

ในส่วนของธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงินกู้ยืมจำนวนสูงถึง 100,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือราว 108,000 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนการเทคโอเวอร์กิจการ ส่วนรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้อนุมัติเงินค้ำประกันจำนวนสูงถึง 9,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงให้กับยูบีเอส

นายโคล์ม เคลเลเฮอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของยูบีเอสกล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิตสวิส ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้กลุ่มผู้ถือหุ้นของยูบีเอสพึงพอใจ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าสถานการณ์ของเครดิตสวิสยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ และข้อตกลงซื้อกิจการที่เกิดขึ้นนี้ ก็เป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ผู้บริหารของยูบีเอสวางแผนจะลดขนาดธุรกิจวาณิชธนกิจของธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นธุรกิจที่ขาดทุนตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปลดพนักงานจำนวนมากน้อยเพียงใด นายเคลเลเฮอร์ตอบว่า การทำข้อตกลงซื้อกิจการเพิ่งจะเกิดขึ้น ขณะนี้จึงยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ต้องปลดพนักงานจำนวนเท่าใด