จับตา"เฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์" หวั่นล้มตาม SVB เป็นรายที่สาม

ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank หรือ FRB) ส่งจดหมายถึงลูกค้าวันจันทร์นี้ (13 มี.ค.) ยืนยันว่าธนาคารยังคงมีเงินทุนที่แข็งแกร่ง และสูงกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดไว้ หลังจากเจอกระแสข่าวสะพัดว่า FRB คือธนาคารสหรัฐที่กำลังจ่อล้มตาม ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB)

นายจิม เฮอร์เบิร์ต ประธานกรรมการ FRB และนายไมค์ รอฟเฟลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FRB ระบุในจดหมายดังกล่าวว่า ธนาคาร FRB พร้อมที่จะดำเนินธุรกรรมและตอบคำถาม รวมทั้งรองรับความต้องการทางการเงินทั้งหมดของลูกค้า เช่นที่เคยดำเนินการมาอยู่แล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
 
ทั้งนี้ FRB เน้นให้บริการลูกค้าในระดับสูงและภาคธุรกิจ ขณะที่มีเงินฝากจากลูกค้ารายย่อยต่ำกว่าระดับเฉลี่ยเมื่อเทียบสัดส่วนสินทรัพย์ทั้งหมด โดย FRB เปิดเผยว่า ธนาคารมีเงินฝากทั้งหมดจำนวน 1.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2565)

แต่ความวิตกเกิดขึ้นเมื่อล่าสุด ราคาหุ้นของ FRB ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันจันทร์ (13 มี.ค.)โดยดิ่งลงกว่า 70% อันเป็นผลมากจากแรงกดดันหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการของ ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) หรือ SB

อ่านเพิ่มเติม: 

• หวั่นการล่มสลายของ SVB กลายเป็นโดมิโนตลาดการเงินสหรัฐ
• อีกราย! สหรัฐสั่งปิด"ซิกเนเจอร์ แบงก์" หวังคุมความเสี่ยงระบบแบงก์

โดย ณ เวลา 17.48 น.ของวันที่ 13 มี.ค.ตามเวลาไทย ราคาหุ้น FRB ดิ่งลง 70.35% สู่ระดับ 24.51 ดอลลาร์

จากนั้นล่าสุด 21.45 น. ของวันเดียวกันตามเวลาไทย ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ประกาศระงับการซื้อขายหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (FRB) แล้ว หลังจากที่ราคาหุ้นธนาคารดังกล่าวทรุดตัวลงอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องของทางธนาคาร โดยราคาหุ้น FRB ดิ่งลง 65% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีในการซื้อขายของวันนี้ (13 มี.ค.) ก่อนที่จะถูกพักการซื้อขาย

ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ได้ประกาศระงับการซื้อขายหุ้น SVB Financial Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มี.ค. ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะประกาศปิดกิจการ SVB ในวันเดียวกัน

นักลงทุนกังวลว่าการล่มสลายของ SVB และ SB จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคารในภาพรวม โดยจะลุกลามไปยังธนาคารประจำภูมิภาคของสหรัฐ เช่น FRB แม้ว่า FRB จะมีการดำเนินนโยบายที่แตกต่างไปจาก SVB ซึ่งเป็นธนาคารที่เน้นการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ SB เป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี

ราคาหุ้น FRB ที่ดิ่งลงอย่างหนักสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาดการเงินสหรัฐในเวลานี้ เพราะการดำดิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่า FRB จะดำเนินนโยบายที่แตกต่างไปจาก SVB และ SB และถึงแม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะประกาศจัดตั้งโครงการ "Bank Term Funding Program"เพื่อปกป้องสถาบันการเงินอื่นๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB และ SB แล้วก็ตาม อีกทั้ง กระทรวงการคลังสหรัฐยังออกแถลงยืนยันว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้กับ SVB และ SB จะสามารถเข้าถึงเงินฝากของตัวเองได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันจันทร์ (13 มี.ค.)แต่กระนั้น 89% ของเงินฝาก 1.75 แสนล้านดอลลาร์ไม่ได้รับการค้ำประกันเมื่อสิ้นปี 2565 และยังไม่ทราบชะตากรรม

รัฐเร่งหาทางช่วยเหลือ แต่ยังต้องลุ้นผลลัพธ์
รายงานระบุว่า FRB สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้กว่า 70,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากเฟดประกาศโครงการ Bank Term Funding Program ซึ่งเป็นโครงการที่เฟดเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์ สถาบันรับฝากเงิน เครดิตยูเนี่ยน และสถาบันการเงินอื่นๆ โดยสถาบันการเงินที่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับเงินกู้จากโครงการดังกล่าว จะต้องยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)

นอกจากนี้ เฟดยังจะเรียกประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์นี้ เวลา 11.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย เพื่อทบทวนและกำหนดอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าและอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ทั้งนี้ เฟด และบรรษัทรับประกันเงินฝากกลาง (หรือ FDIC ซึ่งรับโอนสินทรัพย์ของ SVB มาดูแลหลังจากที่ SVB ถูกสั่งปิด) และผู้บริหารธนาคารกำลังหารือกันถึง "เครื่องมือพิเศษ" ชุดใหม่ ที่จะนำมาใช้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงินและช่วยสกัดความตื่นตระหนกที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้

การมีคำสั่งปิด SVB ซึ่งเป็นธนาคารสหรัฐรายใหญ่สุดที่ล้มลงนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2551 กำลังสร้างผลสะเทือนไปทั่วระบบธนาคาร เงินฝากหลายพันล้านดอลลาร์ที่ไม่ได้รับการค้ำประกันจะเป็นอย่างไร ต้องรอผลการประชุมในวันจันทร์นี้เช่นกัน