คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% มี.ค. และจะขึ้นถึงระดับสูงสุด 5.75% กลางปี

08 มี.ค. 2566 | 07:35 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มี.ค. 2566 | 07:42 น.

นักลงทุนคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมีนาคม และจะขึ้นต่อไปจนแตะระดับสูงสุด 5.50-5.75% ในเดือนมิถุนายน โดยจะยังไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้

 

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค.นี้ และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในกรอบ 5.50-5.75% ในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ เชื่อว่าเฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้แต่อย่างใด โดยคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด เพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 67.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. นี้ และให้น้ำหนักเพียง 32.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

ก่อนการกล่าวถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์เมื่อวันอังคาร (7 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 68.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค. และให้น้ำหนักเพียง 31.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% 

ทั้งนี้ นายพาวเวลล์กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

"ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจะอยู่สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และหากข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่าเฟดควรคุมเข้มนโยบายการเงินให้เร็วขึ้น เราก็จะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”

พาวเวลล์ยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงหลังจากแตะจุดสูงสุดในปีที่แล้ว แต่กระบวนการทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกล และไม่ราบรื่น ดังนั้น ภารกิจในการต่อสู้เงินเฟ้อของเฟดจึงยังคงไม่สิ้นสุด และเฟดจำเป็นที่จะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลล์ไม่ได้ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุดที่ระดับใด และย้ำว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะขึ้นอยู่กับการประชุมในแต่ละครั้ง รวมทั้งข้อมูลที่เฟดได้รับ โดยเฟดจะพิจารณาถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะมีต่อเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเฟดจะไม่มีการกำหนดล่วงหน้าสำหรับทิศทางนโยบายการเงิน

สำหรับ ไทม์ไลน์ในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดตลอดทั้งปี 2565 มาจนถึงครั้งล่าสุด เป็นดังนี้

ปี 2565

  • วันที่ 25-26 ม.ค.     คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%
  • วันที่ 15-16 มี.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.25-0.50%
  • วันที่ 3-4 พ.ค.        ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 0.75-1.00%
  • วันที่ 14-15 มิ.ย.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 1.50-1.75%
  • วันที่ 26-27 ก.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 2.25-2.50%
  • วันที่ 20-21 ก.ย.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.00-3.25%
  • วันที่ 1-2 พ.ย.        ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.75-4.00%
  • วันที่ 13-14 ธ.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50%

ปี 2566

  • วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.50-4.75%