การทำให้ชีวิตดีขึ้นในทุกๆวัน สมการแห่งความสำเร็จ

04 มี.ค. 2566 | 09:47 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2566 | 09:47 น.
761

สมการแห่งความสำเร็จ :คอลัมน์ Investing Tactic โดย ณัช เรือนเพ็ชร์ (โค้ชณัช) ผู้ชนะการแข่งขัน TFEX Algorithmic Trading Workshop & Competition 2017 และ วิทยากรพิเศษโครงการ SITUP

ความฝัน+ความจริง+ความมุ่งมั่น = ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ สมการแห่งความสำเร็จที่เขียนโดย เรย์ ดาลิโอ นี้ใช้ได้กับทุกๆ เรื่อง รวมทั้งเรื่องของการลงทุน

ทุกคนเข้ามาในตลาดหุ้นก็มีความฝันที่จะรวยอยากได้กำไร คงไม่มีใครอยากเข้ามาแค่สนุกๆแล้วขาดทุนออกไป หลายคนเข้ามาในโลกแห่งการลงทุนเพราะต้องการอิสรภาพทางการเงิน อยากใช้ชีวิตอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน อยากเที่ยวก็สามารถเที่ยววันธรรมดาได้โดยไม่ต้องนับวันลาที่เหลือ จะกำไรหรือขาดทุนก็ขึ้นกับความขยันของตัวเองไม่ต้องมีปัญหากับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน

การลงทุนดูเหมือนจะง่ายแค่สมัครบัญชีออนไลน์ โอนเงิน กดๆในแอปก็ได้เงินแล้ว แต่การที่จะชนะคนส่วนใหญ่ในตลาดและทำกำไรให้ได้สม่ำเสมอนั้นยากกว่าที่คนภายนอกเห็นมาก การมีความฝันที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะกว่าเราจะฝึกตัวเองไปถึงจุดที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนได้นั้น เราต้องผ่านความผันผวนของตลาดหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าจะไม่ถอดใจในวันที่เจออุปสรรคไปเสียก่อน

ผมเองก็มีความฝันเหมือนใครหลายๆคนที่อยากประสบความสำเร็จ โดยส่วนใหญ่ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติชีวิตของเซียนหุ้นรุ่นก่อนๆจากหนังสือหรือบทความที่อ่าน ชีวิตหนึ่งเกิดมาก็อยากรวยแบบเค้าบ้าง 

การทำให้ชีวิตดีขึ้นในทุกๆวัน สมการแห่งความสำเร็จ

ตอนเรียนจบผมเริ่มจากการขายของออนไลน์จากจีน แม้จะล้มลุกคลุกคลานในช่วงแรกแต่เมื่อจับทางได้ก็สามารถสร้างเงินเก็บหลักล้านได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่า การขายของแม้เราจะทำได้ดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบอย่างแท้จริงหรือเรียกว่าเราไม่มีแพสชั่นกับมัน จนได้มาลองเข้าสู่โลกแห่งการลงทุน

การลงทุนเริ่มแรกก็เน้นขยันอ่านหนังสือ ช่วงนั้นไปห้องสมุดมารวยทุกสัปดาห์เพื่อไปยืมหนังสือมาอ่าน อ่านไปก็เปิดพอร์ตหุ้นลงทุนไป ผ่านไปเป็นปีจนแล้วจนรอดก็ยังไม่กำไรหนักๆซะที มีได้บ้างเสียบ้าง

มาถึงจุดนี้ก็ยอมรับความจริงได้ว่าความรู้มากมายที่อยู่ในหนังสือนั้นถ้าไม่มีคนที่สำเร็จมาช่วยชี้แนะแนวทางก็ยากที่จะสำเร็จได้ จึงตัดสินใจเริ่มลงสัมมนาที่ต่างๆ ทุกครั้งที่เรียนก็จะได้เทคนิคใหม่ๆในการลงทุนมาใช้ ลองใช้สักพักเมื่อไม่กำไรก็ไปเรียนจากที่ใหม่ วนไปเรื่อยๆ จุดเปลี่ยนสำคัญของวิชาเทคนิคอลคือการเรียนกับครูไก่

ดั่งคำพูดที่ว่าหลักการลงทุนนั้นเรียบง่ายแต่ไม่ง่าย วิชาเทคนิคคอลแท้จริงแล้วเราต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมของราคาหุ้นและอารมณ์ของผู้คนในตลาด การที่จะมีผลตอบแทนชนะตลาดได้นั้น ”เราต้องมีความคิดที่ล่วงหน้าคนส่วนใหญ่”

การที่จะทำนายพฤติกรรมของตลาดเหล่านี้ครูไก่ได้อธิบายผ่านการสอนเรื่องทฤษฎีดาวและนับอีเลียตเวฟ โดยทฤษฎีดาวนั้นจะเป็นมองภาพใหญ่ว่าราคาหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลงและอีเลียตเวฟจะเป็นตัวกำหนดจุดเข้าออกที่ละเอียดมากขึ้น แม้ความรู้ทั้งสองเรื่องนี้จะหาอ่านได้ตามหนังสือทั่วไปแต่การได้คำแนะนำจากคนที่สำเร็จจริงๆทำให้เรารู้ความผิดพลาดของตัวเองได้เร็วขึ้น

และถึงแม้เราจะเข้าใจแก่นความรู้ของวิชาการลงทุน แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นส่วนสุดท้ายของสมการความสำเร็จนั้นคือความมุ่งมั่น เนื่องจาก 90% ของคนที่เข้ามาในตลาดหุ้นขาดทุน ดังนั้นถ้าจะกำไรเราต้องมุ่นมั่นแบบคน 10% ที่เหลือ ถ้าคนอื่นวิเคราะห์กราฟหุ้นวันละ 10 ตัวผมก็จะต้องวิเคราะห์วันละ 50 ตัว บางคนอาจจะวิเคราะห์หุ้นแค่เสาร์อาทิตย์แต่ผมต้องหาเวลาดูหุ้นทุกวันแม้จะทำงานมาเหนื่อยๆ ด้วยความคิดว่าเราต้องเป็น 10% ที่เหลือให้ได้

จากวันที่เริ่มลงทุนถึงวันนี้ตอนนี้ ด้วยพอร์ตลงทุนตอนนี้ก็ได้ปันผลเกินค่าใช้จ่ายรายเดือนแล้วซึ่งคงเป็นนิยามของอิสรภาพทางการเงิน แต่แทนที่จะหยุดเทรดแล้วเอาเงินไปใส่ในหุ้นกู้ที่ดูปลอดภัยแล้วกินปันผล ผมก็รู้สึกว่าการลงทุนมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว มาถึงวันนี้ก็พบความจริงว่าเป้าหมายที่วางไว้ในตอนแรกมันก็เป็นแค่จุดเช็กพ้อยหนึ่งของชีวิต ชีวิตเราไม่ได้ต้องการแค่ถึงเป้าหมายแล้วจบ “การทำให้ชีวิตดีขึ้นในทุกๆวันต่างหากคือความหมายของการมีชีวิตอยู่ที่แท้จริง”