หุ้นไทยพุ่งไตรมาสแรก ทั้งปียังเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

12 ม.ค. 2566 | 14:45 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2566 | 21:55 น.

ตลาดหุ้นไทยไตรมาสแรกพุ่ง บล.เอเซียพลัส คาดการท่องเที่ยว กำไรบริษัทจดทะเบียนหนุนตลาดหุ้นขยายตัว มองทั้งปี 66 ยังเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

(12 ม.ค. 66) คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาสแรกของปี 66 ยังคงมีทิศทางที่ดี และจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ในกรอบ 1,600 ถึง 1,700 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุน จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่เติบโตดีกว่าเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดว่าGDP ปี 66 ของไทยขยายตัว 3.8% มากกว่าเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวแค่ 2.6% ในปีนี้ 

 

รวมทั้งแรงหนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังจากจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุม โควิด-19 และเปิดประเทศ ประกอบกับกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2566 คาดอยู่ที่ 1.27 ล้านล้านบาท คิดเป็น EPS ที่ 99.2 บาท/หุ้น เติบโตได้ 6% และทิศทาง Fund Flow ที่มีแนวโน้มไหลเข้ามายังประเทศไทย จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า รวมไปถึงความคาดหวังเชิงบวกจากนโยบายใหม่ๆ ที่จะมีออกมาในช่วงใกล้การเลือกตั้ง 

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส

แม้จะมีปัจจัยสนับสนุนแต่ตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงที่มาจากเศรษฐกิจสหรัฐ และยุโรปที่มีโอกาสสูงในการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) สะท้อนจาก Bloomberg Consensus ที่คาดโอกาสในยุโรปมากถึง 80% และสหรัฐ 65%  ซึ่งจะสร้างภาวะเชิงลบต่อตลาดหุ้นภูมิภาครวมถึงในไทยได้ แม้ไทยโอกาสเกิด Recession ต่ำเพียง13% 

 

รวมทั้งปัจจัยกดดันในประเทศจากการดำเนินนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะทำให้ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนในตลาดหุ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ซึ่งจากการประเมินหาก กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% 1 ครั้งจะทำให้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 1,740 จุด ปรับขึ้น 2 ครั้ง ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 1,667 จุด แต่หากไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์สามารถปรับตัวขึ้นไปถึง 1,820 จุดได้ โดยคาดว่าดอกเบี้ยปีนี้อยู่ช่วง 1.50% - 1.75% 

 

นอกจากนี้การเก็บภาษีขายหุ้น ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นไตรมาส 2 ของปี 66 จะกระทบต่อทิศทางตลาดในระหว่างการปรับสมดุล ช่วงก่อนเก็บภาษีจริง รวมทั้งความผันผวนของ DELTA ที่อาจกลับมาสร้างแรงกดดันต่อตลาดได้ เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น DELTA 1% จะมีผลกระทบ ตลาดหุ้น 0.85 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำหุ้นทำกำไรมีแนวโน้มเติบโตที่กระจายบน 3 กลุ่มการลงทุน ทั้ง การบริโภคภายในประเทศ จีนเปิดประเทศ และกลุ่มหุ้นปันผลช่วงไตรมาสแรก

 

หุ้นเด่น

STECCOM7, GULF, AOT, AP, ASK