SME D Bank เปิดระดมเงินฝากเพื่อสิ่งแวดล้อม 1 พันล้านบาท

22 ธ.ค. 2565 | 10:11 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2565 | 17:11 น.

SME D Bank ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก ESG ระดมเงินทุน 1,000 ล้านบาท หนุนเอสเอ็มอียกระดับธุรกิจคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือ SME D Bank เผยว่า จากที่รัฐบาลมีนโยบายกำหนดยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศไทยยุคใหม่ด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) โดยให้ความสำคัญสูงสุดกำหนดเป็น “วาระแห่งชาติ”  ดังนั้น  SME D Bank ในฐานะธนาคารเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ขานรับนโยบายดังกล่าว ที่ผ่านมา ได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ BCG Loan วงเงิน 11,000 ล้านบาท  

 

และล่าสุด  ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank หรือ ADB)  จัดทำกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing Framework) ตามมาตรฐานสากล  ซึ่งธนาคารคำนึงถึงแนวทางของESG ทั้งการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environment) รับผิดชอบต่อสังคม (Social) และยึดหลักธรรมาภิบาล(Governance) เพื่อพัฒนากระบวนการระดมทุนทั้งในรูปแบบพันธบัตรและผลิตภัณฑ์เงินฝาก

 

"โดยนำไปปล่อยสินเชื่อ  สนับสนุนเอสเอ็มอีไทยยกระดับสู่ BCG Model ต่อไป  ก่อให้เกิดความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล  อีกทั้ง มีบริษัท DNV Business Assurance Australia จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการอิสระ (External Reviewer) ทำการสอบทานและรองรับว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากลทุกประการ"

 

ทั้งนี้ จากการพัฒนากระบวนการดังกล่าว ส่งผลให้ SME D Bank เป็น “สถาบันการเงินแห่งแรกของไทย” ที่สามารถออก “ผลิตภัณฑ์เงินฝาก ESG” เพื่อระดมทุนได้สำเร็จ เบื้องต้น เปิดรับฝาก วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 1.2% ต่อปี ซึ่งได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนเอสเอ็มอียกระดับสู่BCG Model เช่นกัน เข้าฝากเงินจนเต็มจำนวนอย่างรวดเร็ว  

 

“SME D Bank  ให้ความสำคัญสูงสุดในการส่งเสริมเอสเอ็มอีสู่ BCG Model เราจึงมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการระดมทุนเงินฝาก ESG เพื่อหาแหล่งทุนที่เหมาะสมสอดคล้องกับความจำเป็นของโลกแห่งอนาคต นำไปสนับสนุนเอสเอ็มอีผ่านรูปแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่าง ๆ  ช่วยให้เอสเอ็มอีเกิดความเข้มแข็ง และเมื่อเอสเอ็มอีเข้มแข็งแล้ว จะรวมกันเป็นพลังยิ่งใหญ่ ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่  ที่เติบโตอย่างยั่งยืน เคียงคู่กันทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคม”