ส่องหุ้นอสังหา รับอานิสงส์ ครม.ปลดล็อกต่างชาติซื้อบ้าน

26 ต.ค. 2565 | 11:19 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2565 | 18:48 น.
543

ปลดล็อกต่างชาติซื้อบ้าน : โบรกฯ มอง Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ ระดับบน หนุนขยายวงกว้างสู่สินค้าแนวราบเพิ่มขึ้น "4หุ้นเด่น"รับอานิสงส์ SC , LH , SIRI , SPALI

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซียพลัส หรือ ASPS ระบุในบทวิเคราะล่าสุด ( 26 ต.ค.65 ) เรื่อง "ครม. ปลดล็อกต่างชาติ ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ซื้อบ้าน-ที่ดิน ไม่เกิน 1 ไร่" ว่าที่ประชุมครม.วานนี้ 25 ต.ค. 2565 อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงใน 4 กลุ่ม คือ 

 

 

  •  กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง 
  • กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 
  • กลุ่มที่ต้องการทำงานในประเทศไทย 
  • กลุ่มผู้มีทักษะ เชี่ยวชาญพิเศษ 

 

โดยกำหนดสิทธิที่จะได้รับ คือที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ ในเขต กทม. - แหล่งท่องเที่ยว ภายใต้เงื่อนไขลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี (เดิม 5 ปี) ในกิจการดังนี้ คือ

 

1) การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย, ธปท. และ รัฐวิสาหกิจ

2)ลงทุนในกองรวมอสังหาฯ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

3) ลงทุนใน REIT

4) ลงทุนในทุนเรือนหุ้นของนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และ

5) ลงทุนในกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศ

 

ฝ่ายวิจัย ASPS มองว่าเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ เนื่องจากไทยถือเป็นหนึ่งประเทศท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาถือครองอสังหาฯ ทั้งเพื่อการลงทุนและซื้อเพื่ออยู่อาศัย หากย้อนกลับไปก่อนเกิดโควิด-19 ปี 2561 พบว่ามูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ 5.72 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 16% ของมูลค่าโอนฯ แต่หลังจากโควิด-19 ทำให้ดีมานด์ชาวต่างชาติหายไป ส่งผลให้มูลค่าโอนของลูกค้าต่างชาติลดลง 11.6% และ 25% yoy อยู่ที่ 5.06 หมื่นล้านบาท และ 3.77 หมื่นล้านบาท ปี 2562-2563 ตามลำดับ ก่อนเริ่มขยายตัว 5% สู่ระดับ 3.96 หมื่นล้านบาทปี 2564

 

ดังนั้นเชื่อว่า แรงขับเคลื่อนจากการเปิดประเทศ และการปลดล็อกให้คนต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยข้างต้น จะทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และขยายวงกว้างสู่สินค้าแนวราบเพิ่ม จากก่อนหน้านี้ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจคอนโดฯ เป็นส่วนใหญ่  อย่างไรก็ดีหากพิจารณาประเด็นบวกดังกล่าว รวมกับเงื่อนไขที่กำหนดให้คนต่างชาติต้องมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์มากสุด คือ กลุ่มที่มีพอร์ตสินค้าระดับบน ได้แก่ 

 

บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC ([email protected]) เนื่องจากมีสินค้าราคาเกิน 20 ล้านบาท คิดเป็น 30-40% ของพอร์ตรวม ,บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือ LH ([email protected]) สัดส่วน 30% ของพอร์ตรวม เป็นสินค้าเกิน 20 ล้านบาท และ บมจ.บริษัท ศุภาลัย หรือ SPALI ([email protected])
 

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย หรือ KS ให้มุมมองในเรื่องนี้ว่า ครม.ปลดล็อกต่างชาติรายได้สูงซื้อบ้าน - ที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกลงทุน 40 ล้านบาท ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี  KS มองเป็นบวกต่อการลงทุนในอสังหาฯเพียงเล็กน้อยเนื่องงจากไมใช่เรื่องใหม่ในเชิง  sentiment

 

KS ประเมินผู้ประกอบการบ้าน  segment บนจะได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว อาทิ  SC (TP Bt 4.30), LH (TP Bt9.40) และ SIRI (TP Bt1.38) ที่มีสัดส่วนบ้านเกิน 20 ล้านบาท ในพอรต์การพัฒนาที่ 67% , 50% และ 37% ตามลําดับ