จับทิศหุ้นไทยสัปดาห์หน้า จับตาฟันด์โฟลว์ - ประกาศงบ'บจ.'Q3

08 ต.ค. 2565 | 08:25 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2565 | 15:25 น.

บล.กสิกรไทย (KS) ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทย สัปดาห์หน้า (10-14 ต.ค.65 ) คาดดัชนี SET แกว่งกรอบ 1,550- 1,600 จุด จับตางบ บจ.Q3 - ทิศฟันด์โฟลว์ หลังต้นปีมาโฟลว์ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ 1.49 แสนล้านบาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย จำกัด (KS) คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทย สัปดาห์หน้า(10-14 ต.ค.65 ) ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) มีแนวรับที่ 1,565 และ 1,550 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,590 และ 1,600 จุด ตามลำดับ  

 

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 ของบจ. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดค้าปลีกเดือนก.ย. รวมถึงบันทึกการประชุมของเฟด (20-21 ก.ย.) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภค

 

 

จับทิศหุ้นไทยสัปดาห์หน้า จับตาฟันด์โฟลว์ - ประกาศงบ\'บจ.\'Q3

 

 

สำหรับตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (3-7ต.ค.65 ) ปรับตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ SET Index ร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันท่ามกลางความกังวลต่อสัญญาณคุมเข้มของเฟด และข่าวเกี่ยวกับสถาบันการเงินรายใหญ่แห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ 

 

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยทยอยปรับตัวขึ้นในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของไทยชะลอตัวลง นอกจากนี้มีแรงซื้อคืนหุ้นบิ๊กแคปหลายกลุ่ม โดยเฉพาะเทคโนโลยี และแบงก์ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานมีอานิสงส์เพิ่มเติมจากการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกพลัส 

 

อย่างไรก็ดี หุ้นไทยร่วงลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ก่อนการรายงานตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ และผลประกอบการไตรมาส 3/65 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย

 

โดยในวันศุกร์ (7 ต.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,579.66 จุด ลดลง 0.62% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64,036.92 ล้านบาท ลดลง 10.45% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.75% มาปิดที่ระดับ 641.84 จุด     

 

โดยการซื้อขายแยกตามรายกลุ่มนักลงทุน ( 3-7 ต.ค.65 ) มีดังนี้   

 

  • นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,202.40 ล้านบาท  มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะซื้อสุทธิ 149,033.18 ล้านบาท
  • นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 14.231.43 ล้านบาท มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 138,233.13 ล้านบาท 
  • บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 917.54 ล้านบาท มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 80.75 ล้านบาท 
  • นักลงทุนรายย่อยในประเทศ ซื้อสุทธิ 16,351.38 ล้านบาท มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 10,719.30 ล้านบาท