ใครเล่นอะไรกันโหดจริง 

07 ต.ค. 2565 | 06:00 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ต.ค. 2565 | 13:16 น.
1.4 k

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

*** “ลุกช้า...จ่ายรอบวง” นิยามนี้ดูเหมือนจะใช้ได้จริงกับหุ้น 24CS เป็นวงจรหมุนวนกลับมาทำกับหุ้น 24CS ถ้าใครติดตามความเคลื่อนไหวหุ้น IPO มาตลอด จะเห็นว่า เป็นรูปแบบการทำราคาหุ้นวิธีการเดียวที่เคยทำกับ DPAINT เมื่อปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินสองเด้ง โดยการนำหุ้น IPO ไปเร่ขายด้วยการการันตีราคา เพื่อกินส่วนต่างนอกตลาดและต่อด้วยการไล่ราคาหุ้นหน้ากระดานขึ้นไปจนสุดทาง ก่อนที่จะทิ้งชนิดที่ไม่หันกลับมามองอีกเลย เหมือนลอกการบ้านกันมาไม่มีผิด จะต่างกันอยู่บ้างคือในส่วนของ DPAINT เป็นการเล่นให้จบแล้วทิ้งในวันแรกของการเข้าตลาด 
 

ส่วน 24CS เป็นการดันราคาขึ้นไปเรียกแขก จนราคาชนซิลลิ่งในวันแรกของการซื้อขาย จากนั้นก็ขายทิ้งอย่างหนักในวันที่สอง จนทำให้ราคาหุ้นที่เคยถูกดันขึ้นไปเกือบ 300% ต้องร่วงลงมาเหลือแค่เพียงบวก 30% จากราคาจองซื้อในเวลาเพียงแค่ 4 วันทำการเท่านั้น นี่ยังไม่นับรวมไปถึงความเหมือนในวิธีการดันราคาหุ้นที่อยู่ในตลาดอยู่ก่อนแล้วอย่าง ZIGA ซึ่งถูกดันราคาขึ้นไปสูงในเวลาเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่จะถูกเททิ้งในแบบเดียวกันอีกด้วย 
 

สมมุติฐานในวิธีการดันราคาแบบนี้ ถูกโยงไปถึงแก๊งหุ้นในตำนานอย่าง “เฮีย ม.” และ “ผีปลาดุก” ซึ่งเคยฝากฝีมือในการทำราคาหุ้นด้วยวิธีการนี้มาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะทำเดี่ยว หรือ ร่วมมือกันทำ ก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม ถ้าไม่มีหุ้นจำนวนที่มากพอ ก็คงจะทำไม่ได้ ว่าแต่ไปเอาหุ้นมาจากไหน หรือ ใครให้ยืมหุ้นมา เรื่องนี้ใครรู้ช่วยบอกทีนะคะ...เจ๊เมาธ์เองก็อยากรู้เหมือนกันค่ะ 
 

ว่าแต่เรื่องแบบนี้ มีโอกาสที่ตลาดจับได้-ไล่ทันไหม อย่างไรก็ดี เจ๊เมาธ์ ต้องการให้นักลงทุนรู้เท่าทัน และศึกษาพื้นฐานตัวหุ้นให้มากๆ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

 

*** เจ๊เมาธ์ไม่รู้ว่าข่าวการเข้าไปซื้อลิขสิทธิ์ Miss Universe ของ  “แอน จักรพงษ์” เป็นเรื่องจริง หรือ เป็นแค่ข่าวโคมลอย แต่ที่แน่ๆ ข่าวที่ไม่ชัดเจนนี้ดูเหมือนจะส่งผลให้ราคาหุ้นของ JKN ร่วงลงไปอยู่ในจุดที่เกือบจะต่ำสุดได้อีกครั้ง อย่างแรกคงต้องมองไปที่ผลการดำเนินงานของ JKN ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้แย่ แต่เพราะดูเหมาะสมแล้วกับราคาหุ้นที่ปรับลงมามากกว่า 50% ตามอัตราส่วนของการทำกำไร  
 

อย่างที่สอง เป็นเรื่องของแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งแอนทำให้ตัวของเธอเด่นกว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทนับตั้งแต่ JKN เข้าตลาด ดังนั้น เมื่อแอนโลโปรไฟล์ลง โดยที่ไม่ได้สร้างความเข้มแข็งอื่นขึ้นมาทดแทน สิ่งนี้ทำให้ JKN กลายเป็นหุ้นที่ยังผูกพันอยู่กับความทรงจำ และการรับรู้เดิมๆ ที่ไม่มีอะไรใหม่ อย่างไรก็ตาม เจ๊เมาธ์ก็ยังให้ความสนใจ JKN ของคุณแอนอยู่นะคะ ยังให้กำลังใจ...ถึงแม้ว่าราคาหุ้นยังมีโอกาสจะลงต่อไปอีกได้เจ้าค่ะ
 

*** PTT คือหนึ่งในหุ้นที่เจ๊เมาธ์มั่นใจว่า สามารถถือยาวได้อย่างแน่นอน อย่างหนึ่งคือการที่ PTT คือ แหล่งรวมของบริษัทของบริษัทลูก ไม่ว่าจะเป็น OR PTTEP PTTGC TOP IRPC หรือ GPSC ที่ล้วนแล้วได้อานิสงส์จากราคาพลังงานในตลาดโลก แม้ว่าจะมีทั้งบริษัทลูกที่มีกำไรมากบ้าง...น้อยบ้าง รวมไปถึงอาจจะมีบางบริษัทที่ยังขาดทุน แต่ในภาพรวมแล้ว PTT ยังคงแข็งแกร่งมาก นี่ยังไม่นับรวมสภาพคล่องที่สูงมาก จนสามารถที่จะนำเงินที่มีอยู่ไปต่อยอดในธุรกิจของอนาคตอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า หรือ ธุรกิจ ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ทั้งการรักษาและป้องกัน และธุรกิจอื่นอีกหลายอย่าง ขณะที่มีปันผลอย่างสม่ำเสมอซึ่งอาจหาไม่ได้ในหุ้นหลายตัวที่เล่นราคากันแรงๆ  

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่เป็นหุ้นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นหุ้นดี ดังนั้นหุ้นที่มีส่วนใหญ่จึงอยู่ในมือของนักลงทุนที่ชอบความมั่นคง โดยไม่ให้ความสนใจในเรื่องราคาหุ้นหน้ากระดาน ขณะเดียวกันก็มีหุ้นส่วนน้อยจำนวนแค่เพียง 0.3-0.5% เท่านั้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด ซึ่งหุ้นจำนวนเล็กน้อยที่ว่านี้เองกลายมาเป็นตัวชี้นำราคาหุ้นหน้ากระดาน เพราะการเล่นเก็งกำไรของนักลงทุนไม่กี่คน ดังนั้น เจ๊เมาธ์จึงกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า PTT ตัวนี้หละของจริงอย่างไม่ต้องสงสัย   
 

*** ถึงแม้ว่า BANPU จะเป็นหนึ่งในหุ้นใหญ่ที่มีราคาสวิงอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าจะว่ากันตามจริงแล้ว หุ้นตัวนี้กลับเป็นหุ้นอีกตัวที่เจ๊เมาธ์บอกได้เลยว่าน่าสนใจ อย่างหนึ่งอาจจะเป็นเพราะดัชนีค่า P/E ที่ยังต่ำอยู่มาก ซึ่งแม้ว่าดัชนีนี้อาจจะไม่สามารถชี้วัดอะไรได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยที่สุดการที่มีค่า P/E ที่ต่ำกว่า 3 เท่า ก็น่าจะสะท้อนอะไรออกมาได้พอสมควร 
ขณะที่การเป็นหุ้นที่มีปันผลมาอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกหนึ่งในข้อดี ที่ทำให้การถือหุ้นตัวนี้ในระยะยาว เป็นเรื่องที่ไม่ได้แย่จนเกินไปนัก ท้ายที่สุดคือเรื่องของสินค้าพลังงานในตลาดโลก ที่ปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ BANPU สามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ โดยจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในผลการดำเนินงานไตรมาส 3-4/2565 รวมไปถึงกำไรของปี 2565 ทั้งปีก็น่าจะออกมาดีมาก ซึ่งถ้าไม่คิดมากหุ้นอย่าง BANPU สามารถใช้เป็นหลุมหลบภัยที่ดีได้อีกตัวแน่นอนค่ะ 
 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,825 วันที่ 9 - 12 ตุลาคม พ.ศ. 2565