หุ้นไทยวันนี้ ผันผวนแกว่งลง จับตาปมนายกฯ ครบ 8 ปี

ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ ( 30 ก.ย. ) จับตาคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในคดี วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ประเด็นดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นวันนี้ไม่มากนัก เพราะตั้งแต่ศาลฯรับคำร้องและให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดดำรงตำแหน่งชั่วคราว ก็ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

"อาจจะสร้างความผันผวนต่อตลาดฯในวันนี้อยู่บ้าง แต่ไม่ได้ส่งผลต่อดัชนี SETมากนัก  หากศาลฯตัดสินให้"ดำรงตำแหน่งต่อ" ดัชนีหุ้นอาจบวกขึ้นเล็กน้อย หรือตัดสินว่าหมดวาระแล้ว คาดว่าดัชนี SETก็ไม่ได้ปรับลงไปมาก  ประกอบกับนโยบายพรรคฯก็ยังคงเหมือนเดิม บวกกับในเดือน มี.ค.66 จะครบวาระ และมีการเลือกตั้งใหม่ในกลางปีหน้าอยู่แล้ว ตลาดหุ้น ยังให้น้ำหนักเรื่องเศรษฐกิจโลก และเงินบาทอ่อนมากกว่า "

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ให้กรอบดัชนีหุ้นวันนี้ แนวรับที่ 1,580-1,585 จุด และแนวต้านที่ 1,600-1,606 จุด  

ด้านบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (INVX) คาดดัชนี SET เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีประเด็นสำคัญวันนี้  สำหรับคำตัดสินคดีนายกฯ ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี หรือไม่ เป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวน โดยเฉพาะหากคำตัดสินออกมาให้พ้นจากตำแหน่ง ด้านกรอบการเคลื่อนไหวมีกรอบล่างอยู่ที่ 1579-1589 จุด ส่วนกรอบบนอยู่ที่ 1603-1613 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

แม้มองตลาดกำลังปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่ โดยเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงจะสิ้นสุดลงแล้ว และเงินเฟ้อจะเริ่มชะลอตัว แต่ช่วงสั้นคาดบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะยังถูกกดดันจากกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอย

กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำSelective ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

• 1) หุ้น defensive ที่อิงเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก เลือก ADVANC BDMS BLA HMPRO
• 2) หุ้น domestic growth ใน 4Q65 ซึ่งกำไรมีโมเมนตัมเติบโตได้ดี เลือก AMATA AP CRC KTB

ช่วงสั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรือเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน สำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการ และ/หรือ ราคาหุ้น ดังนี้

• 1) หุ้นเดินเรือซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากอุปทานเรือใหม่ที่เข้ามาและอุปสงค์การขนส่งสินค้าเริ่มชะลอตัวลง
• 2) หุ้นที่มีฐานลูกค้า/ตลาดส่งออกไปยังสหรัฐและยุโรป ซึ่งคาดได้รับกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มยาง
• 3) หุ้นเนื้อสัตว์ อาทิ CPF GFPT ซึ่งอาจถูกกดดันจากกังวลต้นทุนอาหารสัตว์จะทรงตัวสูงจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่กลับมายกระดับขึ้น และการเข้าสู่เทศกาลกินเจ