โฮมโปร เผย Q2/65 ฟันกำไร 1,520 ล้านบาท โต 6.11%

29 ก.ค. 2565 | 12:12 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2565 | 19:12 น.

โฮมโปรเผลผลงานไตรมาส 2/65 ฟันกำไร 1,520 ล้านบาท โต 6.11% หลังเปิดสาขาใหม่ บางนากม.1 ดันรายได้รวมทะลุ 17,300 ล้านบาท รับยอดขาย ค่าเช่าฟื้นตัว

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน ไตรมาส2/65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.11% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากรายได้รวม 17,307.56  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 353.26 ล้านบาท หรือ 2.08 % เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

โฮมโปร เผย Q2/65 ฟันกำไร 1,520 ล้านบาท โต 6.11%

ทั้งนี้รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้าเพิ่มขึ้น 1.02% จากการเปิดสาขาใหม่ที่โฮมโปรบางนากม.1 ในไตรมาส 4 ปี 64 และการฟื้นตัวของการบริโภคในภูมิภาคที่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบางส่วน และการผลักดันยอดขายโดยการจัดงาน Homepro Super Expo และทางออนไลน์

ด้านต้นทุนค่าเช่า 175.90 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 19.61 ล้านบาท หรือ 12.55 % โดยมาจากต้นทุนค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นจากการกลับมาดำเนินงานได้เป็นปกติมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 3,029.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163.41 ล้านบาท หรือ 5.70 % เมื่อเทียบกับปีก่อน

 

สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายมีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 17.74 % ในปีก่อน มาอยู่ที่ 18.57 %  จากค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดและการส่งเสริมการขาย ค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ค่าสาธารณูปโภคค่าขนส่งที่จัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ค่าซ่อมแซม และการปรับสู่อัตราปกติของค่าภาษีโรงเรือน

บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า(Home Service) รวม 4,195.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.83 ล้านบาท หรือ 3.19% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 25.17% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.71% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง รวมถึงรายได้จากการบริการที่เพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนค่าขนส่งในการกระจายสินค้าสู่สาขาจะปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันก็ตาม

 

“ไตรมาส 2/2565 ไทยเผชิญกับแรงกดดันทางด้านเศรษฐกิจจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 7% ซึ่งนับได้ว่าเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 14 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้จากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย ทั้งในด้านต้นทุนของสินค้าและ ต้นทุนในการบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อต้นทุนค่าขนส่งในภาคธุรกิจ ที่เริ่มมีการปล่อยราคาลอยตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม”

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังพยายามบริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีการควบคุม และปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ทั้งทางการบริหารในสาขาของบริษัท รวมถึงการบริหารในระบบห่วงโซ่ อุปทาน ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนั้น บริษัทฯยังคงผลักดันยอดขายอย่างต่อเนื่องโดยในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้มีการจัดงาน Homepro Super Expo ช่วงวันที่ 2-6 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โฮมโปทุกสาขาทั่วประเทศ และทางออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการเพื่อสร้างความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าให้กับลูกค้า