SCB CIOเปิดพอร์ตลงทุนไตรมาส 3 แนะถือเงินสด 10%

17 มิ.ย. 2565 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มิ.ย. 2565 | 18:02 น.

SCB CIOคาดเงินเฟ้อสูงยืดเยื้อผนวกดอกเบี้ยขาขึ้นหนุนตลาดการเงินโลกกังวลเศรษฐกิจถดถอยแนะสะสมหุ้นจีน A-share พร้อมเติมกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เข้าพอร์ตมุ่งชนะเงินเฟ้อ

SCB  CIO  ประเมินเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง และการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง จนทำให้เกิดความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในบางประเทศ

 

สำหรับแนวโน้มตลาดการเงินโลก ความไม่แน่นอนจากสงครามและความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นผันผวน

 

แนะสะสมหุ้นเติบโตยั่งยืนอัตรากำไรสูง บริหารความเสี่ยงเงินเฟ้อด้วยสินค้าโภคภัณฑ์  เช่น กลุ่มอาหาร และทยอยสะสมหุ้นจีน A-share

SCB CIOเปิดพอร์ตลงทุนไตรมาส 3 แนะถือเงินสด 10%

 

หลังเศรษฐกิจจีนเปิดเมืองและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีความเสี่ยงในด้านเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ    

ดร. กำพล  อดิเรกสมบัติ  ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office  (SCB CIO )    ธนาคารไทยพาณิชย์   เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงและการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด )

 

ส่งผลให้เกิดความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในบางประเทศ  จาก  3  ปัจจัยหลักที่อาจจะกระทบกับเศรษฐกิจโลกในช่วงไตรมาส  3 / 2022  ประกอบด้วย

1 สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อต่อราคาพลังงานและอาหาร รวมถึงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ( global supply chain disruption ) ที่ส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้อจากปัจจัยอุปทานยังอยู่ในระดับสูงแม้จะชะลอลงบ้างในช่วงครึ่งหลังของปีนี้   

2. อานิสงค์การเปิดเมืองไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากต้นทุนการผลิต  ต้นทุนทางการเงินและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวลง

 

ล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.6% ในปี 2022 และ 2023  ในขณะที่ ปี 2021  อยู่ที่  6.1%  โดยเฉพาะในยุโรปที่มีความเสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคสูงกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ  และ

 

3.การเร่งตัวขึ้นเร็วของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ยิ่งส่งผลให้ตลาดกังวลประเด็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะทำให้ตลาดการเงินโลกยังคงมีความผันผวน จนกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอลงของเงินเฟ้อ และ

 

ความชัดเจนในความเร็วของการขึ้นดอกเบี้ยจากธนาคารกลางหลัก เช่น เฟด   โดย SCB  CIO คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วและแรง จนทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐอยู่ระหว่าง 3.25%-3.50% เมื่อเทียบกับระดับ 0-0.25% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

 

ส่วนแนวโน้มตลาดการเงินโลก จากความไม่แน่นอนของสงครามและความเร็วในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นมีความผันผวนและอาจเกิดภาวะแรงฉุดจากความผันผวน (volatility drag) ในพอร์ตโฟลิโอได้

 

เนื่องจาก คาดว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นในระดับที่ชะลอตัวลง หลังจากที่ตลาดมีการ priced-in เรื่องเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยไปบ้างแล้ว และเริ่มกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง 

 

ทั้งนี้ ความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยที่สูงขึ้นจะเข้ามากดดันการคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ผลประกอบการอาจจะถดถอย และ

 

กับดักด้านมูลค่า (Valuation trap)  จึงเป็นโอกาสในการจับจังหวะทยอยสะสมหุ้นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน อัตรากำไรสูงและสามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นได้ 

 

 ดร. กำพล  กล่าวต่อไปว่า   ในช่วงที่ตลาดการเงินโลกมีความผันผวนสูง SCB CIO ยังคงแนะนำให้มีเงินสดในพอร์ตโฟลิโอ  สัดส่วนประมาณ 5-10%   และเมื่อการขยับขึ้นของเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง

SCB CIOเปิดพอร์ตลงทุนไตรมาส 3 แนะถือเงินสด 10%

แนะทยอยสะสมพันธบัตรระดับInvestment Grade   ในสัดส่วน 20-30%  เพื่อสร้างกระแสรายได้ให้กับพอร์ตโฟลิโอ   สำหรับตลาดหุ้น เรายังคงมุมมอง Neutral ต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากผลประกอบการยังฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

แต่ในระยะข้างหน้าจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูงและการเร่งตัวของดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร  คงมุมมองหุ้นยูโรป slightly negative จากผลกระทบที่ยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป  

 

สำหรับกลุ่ม Emerging Market  คงมุมมอง slightly positive  ต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนหลังมีการทยอยเปิดเมืองและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

 

รวมถึงมีความเสี่ยงในด้านเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ   ส่วนไทยและเวียดนาม ปรับมุมมอง slightly positive   เนื่องจาก แม้จะได้อานิสงค์จากการเปิดประเทศ แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ย

 

รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น    และปรับ Asian REITs เป็น Neutral เนื่องจากผลกระทบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เช่นกัน

 

นอกจากนี้   เพื่อเป็นการจัดการความเสี่ยงเงินเฟ้อ  SCB CIO  ปรับสินค้าโภคภัณฑ์เป็น positive โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร  ที่อุปทานมีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่องจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการห้ามส่งออกอาหารในหลายประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง

 

แต่การปรับตัวขึ้นน่าจะถูกกระทบจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย  สำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง ( High Net Worth  / Ultra High Net worth )  การมี Alternative assets เช่น Structure note และ Private asset อยู่ในพอร์ตจะช่วยสร้างกระแสรายได้และลดความผันผวนของพอร์ตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ความไม่แน่นอนในตลาดเงินโลกยังอยู่ในระดับสูง