อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทวันนี้ปิด “อ่อนค่า”ที่ระดับ 34.32บาท/ดอลลาร์

02 มิ.ย. 2565 | 18:40 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มิ.ย. 2565 | 01:55 น.

ค่าเงินบาทกรอบการอ่อนค่าเริ่มจำกัดลง ฟื้นตัวกลับเล็กน้อยตามการปรับโพสิชันก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว-นักลงทุนรอติดตามท่าทีต่อเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายการเงินของกนง. แม้จะคาดว่ากนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในการประชุมวันที่ 8 มิ.ย. นี้

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 34.40 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 34.32 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.34 บาทต่อดอลลาร์ฯ 

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงแรกตามสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดี และสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดีกรอบการอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มจำกัดลง

 

และฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อยตามการปรับโพสิชันก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดการเงินในประเทศ ประกอบกับนักลงทุนรอติดตามท่าทีต่อเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบายการเงินของกนง. แม้จะคาดว่ากนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในการประชุมในวันที่ 8 มิ.ย. นี้ก็ตาม

 

สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,936.25 ล้านบาท ขณะที่มี NET OUTFLOW ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 3,282 ล้านบาท (โดยแม้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิพันธบัตร 1,212 ล้านบาท แต่ก็มีตราสารหนี้ที่หมดอายุถึง 4,494 ล้านบาท) 

 

ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2565 โดยธปท. อยู่ที่ -13.01 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -9.84 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)

 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 6-10มิ.ย.2565  คาดไว้ที่ 34.00-34.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. อัตราเงินเฟ้อของไทย เดือนพ.ค. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางออสเตรเลีย

 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ (CPI) เดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. (เบื้องต้น) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ตัวเลขการส่งออกและอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ของจีน และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. ของจีน และอังกฤษด้วยเช่นกัน