บันได 4 ขั้นสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

18 พ.ค. 2565 | 13:11 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ค. 2565 | 20:11 น.

fintips by ttb เผยแนวคิด บันได 4 ขั้นสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน ฉบับมนุษย์เงินเดือน ให้พร้อมลงมือวางแผนเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ

อิสรภาพทางการเงิน” เป็นวิชาสำคัญสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ควรทำความเข้าใจ และเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน ถ้าอยากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มีอิสระอย่างใจฝัน หมดกังวลกับเรื่องเงินในอนาคต 

 

fintips by ttb ขอแนะนำแนวคิด “บันได 4 ขั้นสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน” ฉบับมนุษย์เงินเดือน ให้พร้อมลงมือวางแผนเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ ดังนี้  

 

1.“ฉลาดออม ฉลาดใช้” สร้างรากฐานการเงินที่ดี

ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ มั่นใจได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ทำให้ง่ายต่อการวางแผน และกำหนดสัดส่วนการเก็บออมเงินที่พอดี โดยเราสามารถเริ่มต้

1.“ฉลาดออม ฉลาดใช้” สร้างรากฐานการเงินที่ดี

ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ มั่นใจได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ทำให้ง่ายต่อการวางแผน และกำหนดสัดส่วนการเก็บออมเงินที่พอดี โดยเราสามารถเริ่มต้น

 

ด้วยสูตรออมเงินง่าย ๆ คือ 50:30:20 ดูก่อน ซึ่งอาจจะปรับสัดส่วนให้พอดีกับชีวิตของเราได้

  • ส่วนแรก 50% สำหรับใช้จ่ายกับสิ่งที่จำเป็นในชีวิต เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง และค่าอาหารในแต่ละวัน
  • ส่วนที่สอง 30% สำหรับใช้จ่ายกับสิ่งที่เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า หรือ การเดินทางท่องเที่ยว  
  • ส่วนที่สาม 20% สำหรับการเก็บออมเพื่ออนาคตที่มั่นคง โดยอาจจะแบ่งออกเป็น 2 กอง เช่น 10% เก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน และอีก 10% เก็บเป็นเงินออมระยะยาว

 

 

จะเห็นได้ว่าสูตรออมเงิน 50:30:20 ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนแบ่งเงินไว้เพื่อการใช้จ่ายและเก็บออมได้อย่างเป็นสัดส่วน เป็นสูตรที่ไม่หย่อนและไม่ตึงจนเกินไป ที่สำคัญคือ เรายังสามารถใช้จ่ายกับสิ่งที่เป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตได้ถึง 30% พร้อมกับมีเงินเก็บไว้เผื่อใช้ในอนาคตด้วย

 

2.“รอบรู้เรื่องกู้ยืม” ไม่ก่อหนี้เกินตัว

หากฝันอยากจะมีบ้านหรือรถเป็นของตัวเอง ชาวมนุษย์เงินเดือนสามารถทำให้เป็นจริงได้ โดยเริ่มต้นจากการตรวจเช็กไลฟ์สไตล์ของตนเอง ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของเราจากฐานเงินเดือน หนี้สินที่มีอยู่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน เพื่อที่จะหาบ้าน หรือรถที่ตอบโจทย์ชีวิต และทำให้เราผ่อนชำระได้แบบพอดี ๆ ไม่ตึงจนเกินไป

  • การซื้อบ้าน หลังจากคำนวณแล้ว ค่างวดที่เราต้องชำระในแต่ละเดือนไม่ควรเกิน 20-30% ของรายได้ต่อเดือน
  • การซื้อรถ ถ้าจะให้ผ่อนได้แบบพอดี ไม่ตึงเกินไป ควรผ่อนอยู่ที่ประมาณ ๆ 10-15% ของรายได้ต่อเดือน

 

3. “ลงทุนเพื่ออนาคต” เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ

หนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมกับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามข่าวสารในตลาดคือ การลงทุนในกองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยบริหารจัดการเงินลงทุนเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ โดยเทคนิคที่จะช่วยให้การลงทุนของเติบโต ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาดคือ DCA (Dollar Cost Averaging) ซึ่งเป็นการทยอยแบ่งเงินลงทุนเป็นงวด ๆ ครั้งละเท่า ๆ กัน อย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ราคาต้นทุนแบบถัวเฉลี่ยที่ถูกลง

 

4.“มีความคุ้มครองอุ่นใจ” ใช้ชีวิตได้เต็มที่

การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรละเลยก็คือ เรื่องการวางแผนทางการเงิน และการวางแผนด้านสุขภาพที่ควรจะเกิดขึ้นควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันสุขภาพ ซึ่งเราสามารถทยอยซื้อเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมในแต่ละสเต็ปของชีวิต

 

เช่น เมื่อเจ็บป่วยระหว่างทำงาน เรามั่นใจว่ามีประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เพียงพอ หรือ เมื่อถึงวันสร้างครอบครัว เรามั่นใจว่า หากเกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องไม่คาดฝัน เรามีประกันที่ช่วยดูแลคนข้างหลังแทนเราได้ และเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ก็อุ่นใจได้ว่าหากเกิดโรคร้าย ประกันที่มีจะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลได้อย่างครอบคลุม เท่านี้ก็จะมีการเงินที่พร้อมและสามารถใช้ชีวิตที่ฝันได้อย่างเต็มที่และอุ่นใจ

 

การเงินที่ดีขึ้นเป็นไปได้เสมอ เพียงเริ่มต้นทีละสเต็ป ตามเป้าหมายที่วางไว้ ยิ่งทำตามเป้าหมายได้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าใกล้ชีวิตที่มีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้นเท่านั้น แนวคิดนี้เราสามารถยึดถือไว้ใช้ได้ตลอดชีวิตเลย