IRPC เตรียมขายหุ้นกู้ -กรีนบอนด์ 5 รุ่น-หุ้นกู้อายุ 5 ปีดอกเบี้ย 3.10% ต่อปี

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่าน 8 สถาบันการเงิน โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A-(tha) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

สะท้อนถึงความได้เปรียบในการแข่งขันในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมและธุรกิจปิโตรเคมีแบบครบวงจร ที่พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจใหม่ ต่อยอดความแข็งแกร่งให้ธุรกิจปัจจุบัน ด้วยนวัตกรรมวัสดุและการใช้พลังงาน ที่สร้างสมดุลทั้งในด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและธรรมาภิบาล

นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า IRPC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 5 รุ่น ให้แก่ ผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่

 

ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 5 ปี เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป อัตราดอกเบี้ย 3.10% ต่อปี  และหุ้นกู้อายุ 4 ปี  7  ปี 10 ปี และ 12 ปี เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยหุ้นกู้อายุ 7 ปี เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือกรีนบอนด์

 

ทั้งนี้ IRPC จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมูลค่าการ             ออกหุ้นกู้ของหุ้นกู้ทั้ง 4 รุ่นที่เหลือ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้  โดยหุ้นกู้ทั้งหมดมีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน                ตลอดอายุของหุ้นกู้ และคาดว่าจะเปิดการจองซื้อในระหว่างวันที่ 17 - 19 พฤษภาคมนี้ ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 8 แห่ง

 

ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร

สำหรับเงินทุนจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้/หุ้นกู้กรีนบอนด์ครั้งแรกนั้น IRPC จะนำไปใช้ลงทุนตามกลยุทธ์ใหม่ การขยายผลการลงทุนเชิงอนุรักษ์ อาทิ ส่วนขยายโครงการทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ตามแนวทางการออกกรีนบอนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐาน และ/หรือชำระคืนหนี้เดิม และเงินกู้ที่จะครบกำหนด

 

ภาพรวมผลประกอบการของ IRPC ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับครึ่งปีที่แล้ว          โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก stock gain และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลจากการที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศยูเครน ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากปลายปี 2564

 

หุ้นกู้ของ IRPC เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนในสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนและผันผวนสูงเช่นนี้ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ A-(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด         เมื่อเดือนมีนาคม 2565

 

ความพิเศษของหุ้นกู้อายุ 5 ปีที่เสนอขายให้ผู้ลงทุนทั่วไปในครั้งนี้คือ ผู้ลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นกู้ได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสาขา หรือช่องทางออนไลน์ของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ที่มีการให้บริการ

 

นอกจากนี้ได้เพิ่มทางเลือกในรูปแบบหุ้นกู้ดิจิทัลให้ผู้ลงทุนสามารถถือครองหุ้นผ่านวอลเล็ต แบบไม่มีใบตราสาร (Scripless Bond) และสามารถซื้อขายได้เรียลไทม์ 24 ชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ผู้ลงทุนสามารถเห็นข้อมูลการถือครองบน “วอลเล็ต” ได้ทันที และสามารถทำรายการซื้อ/ขายหุ้นกู้ในตลาดรองผ่าน “วอลเล็ต” ได้

 

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ IRPC สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท  ผ่านทางธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต

 

และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และสำหรับการจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัล สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท            และทวีคูณ 1,000 บาท  ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ของธนาคารกรุงไทยเท่านั้น สามารถติดต่อผู้จัดการการจัดจำหน่าย 8สถาบันได้แก่

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)   ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (รวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

 

นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ลงทุนภายใต้สถานการณ์ Covid-19 ในปัจจุบัน ผู้ลงทุนสามารถทำการจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทาง online        ของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ได้ (ยกเว้นธนาคารทหารไทยธนชาต และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร)